Close this window

"บวกราคาอะไหล่" การโกงของอู่ ที่ยากแก้ไข
"บวกราคาอะไหล่" การโกงของอู่ ที่ยากแก้ไข

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2547 11:41 น.


การซ่อมรถตามอู่ทั่วไป ส่วนใหญ่จะใช้อะไหล่ทดแทนเทียมจากร้านอะไหล่และให้อู่จัดซื้อ แล้วมาเก็บเงินพร้อมค่าแรง มีกลโกงของอู่กับการบวกค่าอะไหล่เกินจริง หลายคนพอจะทราบ แต่ทำใจจ่ายเงินได้ แต่มีบางคนเท่านั้นที่ต้องโวย เพราะถูกบวกเกินเป็นเท่าหรือหลายเท่าตัว แวดวงอู่ซ่อมรถในไทย กับการบวกค่าอะไหล่ กลายเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ไม่ปกติและควรขจัดให้หมดไป แต่ในความเป็นจริงก็พอจะสรุปได้ว่า ไม่มีวันหมด และยากแก้ไข อ่านเรื่องราวและเหตุผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้น







++การให้อู่ซื้ออะไหล่ให้ เป็นสาเหตุสำคัญ++

เจ้าของรถส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้เรื่องรถลึกพอจะจัดซื้ออะไหล่ให้อู่ได้ หรือถึงจะได้ แต่มักไม่มีเวลาเดินทางไป-มาเพื่อซื้ออะไหล่ อู่เองก็ขาดความคล่องตัวและเสียเวลาในการทำงาน ถ้าเมื่อถอดชิ้นส่วนออกมาดูแน่แล้วว่าเสีย แต่ต้องรอลูกค้าซื้ออะไหล่ให้ การอู่จัดซื้อให้จะสะดวกกว่า เพราะมีการซื้อ-ขายกับร้านอะไหล่กันมานานแล้ว บางครั้งโทรศัพท์สั่งก็ได้ และอู่ก็มีความเชี่ยวชาญในการเลือกอะไหล่ (ถ้าสุจริตใจ)

นับเป็นเรื่องปกติที่การซ่อมรถในอู่กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนลูกค้าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอู่ในการจัดซื้ออะไหล่ จึงเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการบวกราคาค่าอะไหล่อย่างง่ายดาย ใบเรียกเก็บเงินค่าอะไหล่กับลูกค้า มี 2 แบบ คือ ใบเสร็จจากร้านอะไหล่ หรือใบเสร็จค่าอะไหล่รวมค่าแรงที่ออกโดยอู่ ง่ายทั้ง 2 แบบที่จะลงราคาอะไหล่เกินจริง เพราะอู่ก็คุ้นเคยอยู่กับร้านอะไหล่ๆ เองก็ทราบวงจรการโกงนี้อยู่แล้ว

++ความโลภ และลดตัวเลขค่าแรง++

เงิน ใครๆ ก็อยากได้ ยิ่งโกงง่ายก็ยิ่งทำให้คนดีกลายเป็นคนโกงได้ง่ายตามไปด้วย ทางอู่เห็นว่าการจัดซื้ออะไหล่ให้ ควรมีค่าจัดซื้อหรือค่าเสียเวลาบ้าง แต่ในเมื่อไม่สามารถแยกรายการเก็บเงินกับลูกค้าได้ จึงรวบรัดบวกเข้าไปในค่าอะไหล่ แต่ก่อนบวกกันห้าสิบบาทร้อยบาท หรือห้าเปอร์เซ็นต์สิบเปอร์เซ็นต์ต่อชิ้น ก็สมเหตุสมผลแล้ว เพราะอาชีพช่าง คือ ขายแรงงาน รับเงินจากค่าแรงค่าฝีมือ

บวกเล็กบวกน้อยมาเรื่อยๆ เมื่อลองเพิ่มการบวก ลูกค้าก็จับไม่ได้ หรือไม่สนใจจะจับผิด บวกกับความโลภ ต่อมาอู่ก็บวกค่าอะไหล่ตามอำเภอใจ ไม่มีเปอร์เซ็นต์แน่นอน (บางอู่บวกมาก-น้อยตามความอยากใช้เงินในช่วงเวลานั้น) โดยจะเดาดูว่าอะไหล่ชิ้นนั้นซื้อมาในราคาถูกมากไหม และคิดต่อไปว่าคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นชิ้นที่มีราคาแพงหรือไม่ ถ้าซื้อมาถูก แล้วใครๆ ชอบมองว่าชิ้นนี้น่าจะแพง ก็จะบวกราคามาก แต่ถ้าซื้อมาแพงและดูเป็นอะไหล่พื้นๆ ก็จะบวกราคาแค่เล็กน้อย





หากเป็นรถยี่ห้อแพงดูหรู เช่น เบนซ์ ถ้าบังเอิญว่าซื้ออะไหล่มาราคาถูก ก็จะบวกราคาเข้าไปเต็มเหยียด เพราะลูกค้าเองก็คิดว่าอะไหล่เบนซ์จะต้องแพง ถ้าบวกน้อยแล้วราคายังต่ำ ลูกค้าอาจจะโวยวายได้ว่าซื้ออะไหล่คุณภาพต่ำมาให้ โดยสรุปก็คือ การบวกค่าอะไหล่น่าจะเพิ่มแค่เล็กน้อย ถือเป็นค่าอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า แต่เมื่อไม่มีใครจับได้ผสมกับความโลภ ก็จะบวกกันมากขึ้นจนสูงเท่าที่ลูกค้าจะไม่สงสัย

บางอู่บวกค่าอะไหล่ไว้มาก จึงใช้วิธีดึงดูดลูกค้าด้วยการคิดค่าแรงไม่แพง หรือต่ำกว่าปกติเล็กน้อยด้วยซ้ำ เช่น จริงๆ ควรคิดค่าแรง 1,500 บาท ก็คิดค่าแรงแค่1,000 บาท แต่ได้กำไรจากการบวกค่าอะไหล่อีกเป็นพันบาท ลูกค้าส่วนใหญ่เห็นค่าแรงถูกๆ ก็ชอบ ทำให้บางอู่ที่คิดค่าแรงตามจริง แต่บวกค่าอะไหล่น้อยหรือไม่บวกเลย ถูกลูกค้ามองว่าคิดค่าแรงแพง ไม่น่าเข้าไปทำ จึงทำให้หลายอู่ที่ซื่อสัตย์ต้องทำตาม คือ บวกค่าอะไหล่ไว้เพียบ แล้วจูงใจด้วยค่าแรงถูก อีกประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดการบวกอะไหล่ก็คือ ความง่ายในการโกงแค่เขียนตัวเลขเท่านั้น

++ อู่ไม่รู้สึกผิด ไม่กลัวถูกจับได้++

เจ้าของอู่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่า อู่ไหนก็ทำ จึงไม่รู้สึกผิด และคิดเข้าข้างตัวเองอีกว่า การบวกค่าอะไหล่เป็นการชดเชยการคิดค่าแรงถูกไม่กลัวถูกจับได้ เพราะมีลูกค้าน้อยคนมากที่สงสัยและต้องเสียเวลาไปเช็คราคาอะไหล่ ซึ่งร้านอะไหล่ส่วนใหญ่ก็มักไม่อำนวยความสะดวก ไม่อยากเสียเวลา ส่วนใหญ่จะชะล่าใจและทำใจคิดว่าอู่บวกค่าอะไหล่ไม่มาก ถือว่าเป็นค่าจัดหาเพิ่มความสะดวก ถ้าลูกค้าที่เข้มงวดกับเรื่องนี้จริงๆ มักจะตั้งเงื่อนไขแต่แรกว่าจะซื้ออะไหล่เอง (ซึ่งมีน้อยอู่ที่ชอบลูกค้าแบบนี้)






++อย่าคิดว่าจะบวกแค่10-20 %++

ตามที่บอกไว้ข้างต้น คือ ถ้าทางอู่มีความโลภ ก็จะบวกเต็มที่ เน้นแค่ไม่ให้แพงจนลูกค้าสะดุ้ง เอะใจจนเกิดเรื่องทะเลาะกัน หรือลูกค้าไปสืบเสาะราคาจริง ความแน่นอนจึงไม่มี บางชิ้นจึงบวกแค่ไม่กี่สิบบาท (แต่รวมกันแล้วหลายร้อย) คิดเป็น 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่บางชิ้นอาจจะถูกบวกกว่าเท่าตัว หรือ 3 เท่าตัวก็มี (พิมพ์ไม่ผิด 3 เท่าตัว) เช่น ซื้อมา 120 บาท ลงรายการรับเงินจากลูกค้า 380 บาท โดยเฉพาะรถที่คนเชื่อกันว่าราคาอะไหล่แพงหรือเป็นรถหรู

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมีอะไหล่จากซัพพลายเออยี่ห้อดังขายในราคาถูกเช่น เบนซ์ บีเอ็มฯ ฮอนด้า โดยเฉพาะเบนซ์นั้น อู่เห็นว่าลูกค้ามักจะมีเงินและตัวลูกค้าเองก็มักไม่มีความรู้เรื่องรถและฝังใจว่ารถตนเองหรู อะไหล่ก็ต้องแพงเป็นธรรมดา ในขณะที่ราคาอะไหล่เบนซ์นอกศูนย์ฯ ตามร้านทั่วไปถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับระดับตัวรถ อู่จึงมีช่องบวกราคาได้ 2-3 เท่าตัว ถ้ าใครใช้เบนซ์แล้วไม่เคยซื้ออะไหล่เอง ลองไปถามราคาจากร้านอะไหล่เบนซ์ทั่วไป เมื่อทราบราคาจริงแล้วจะสุดแค้นว่าทำไมบางอู่ถึงบวกราคาอะไหล่กันมากอย่างนี้

++ยากแก้ไขและลบล้าง การบวกอะไหล่ของอู่ไทย++

ด้วยหลายเหตุผล เพราะเจ้าของรถ ไม่มีความรู้มากพอจะซื้ออะไหล่ได้ดี หรือไม่มีเวลาว่างพออู่ขาดความคล่องตัวและเสียเวลารออะไหล่ ถ้าลูกค้าจัดซื้อเอง หลายอู่ไม่อยากซ่อมรถให้ ถ้าลูกค้าซื้ออะไหล่เอง เพราะจะได้กำไรน้อยกว่าเดิมมาก ค่าแรงก็คิดเพิ่มไม่ได้ ราคาอะไหล่ ถึงจะชิ้นเดียวกันยี่ห้อเดียวกัน แต่ต่างร้านก็อาจไม่เท่ากัน

คำถามที่ตามมา คือ จะให้ทำอย่างไร ถ้าเลือกจะซ่อมรถตามอู่ แต่ไม่อยากถูกบวกค่าอะไหล่ คำตอบ คือ พยายามเลือกอู่ที่พิสูจน์คร่าวๆ แล้วว่า บวกค่าอะไหล่ไม่มาก ก็คงมีคำถามตามมาอีกว่า จะเลือกจะพิสูจน์ได้อย่างไร ไม่ง่ายครับ






เพราะต้องเอารายการไปเปรียบเทียบราคากับร้านอะไหล่ ซึ่งร้านฯ ก็มักไม่เสียเวลาทำให้ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรและอาจเป็นการสร้างศัตรู หากลูกค้าเอาชื่อร้านอะไหล่ไปอ้างตอนเถียงกับอู่ หรือการเทียบก็อาจไม่ชัดเจน ถ้าเป็นอะไหล่ทดแทนหรือเทียม ที่มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ในใบรายการจากอู่ก็มักไม่มีรายละเอียดมากไปกว่าการระบุว่าเป็นอะไหล่ชิ้นใด

เกริ่นตั้งแต่หัวเรื่องว่า การบวกค่าอะไหล่ เป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ในเมืองไทย และน่าสงสารลูกค้าอย่างมากที่หลายอู่บวกราคาอะไหล่มากถึง 2-4 เท่ากันบ่อยๆ (เกิดขึ้นจริงและไม่น้อย) และไม่เกิดเรื่อง แต่ลูกค้าจะซื้ออะไหล่เองก็ยุ่งและทำไม่เป็น ถ้าอู่จะคิดค่าแรงแพงตามจริงก็ไม่ยอม ผิดที่อู่เป็นหลักที่โลภมาก และผิดที่ลูกค้าบางส่วนที่สบายใจเมื่อเห็นเรียกเก็บเงินด้วยค่าแรงถูกๆ และไม่มีองค์กรใดควบคุมได้ แม้แต่ สคบ. เพราะตัวอะไหล่เอง มีราคาแตกต่างกันในแต่ละร้าน และอู่จะถูกตรวจสอบเมื่อลูกค้าสะกิดใจในราคาเท่านั้น อู่ที่ไม่หน้ามืดก็มักจะมีความรอบคอบในการโกงอยู่เสมอในการบวกราคาอะไหล่ไม่ให้ลูกค้าเอะใจ

บทความนี้ไม่ได้บอกว่าทุกอู่จะโกงอย่างนี้ และไม่ได้หวังจะแก้ไขได้ เพราะมีหลายตัวแปรข้างต้นที่ทำให้การบวกอะไหล่ยากจะหมดไปจากเมืองไทย

วรพล สิงห์เขียวพงษ์
โดย: Bom   วันที่: 29 Jul 2004 - 23:34


 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 003499
โดย: ม๊าดด้า
ใช่แล้ว ทำกันจนเป็นเรื่องปกติ พอบอกว่าจะหาอะไหล่เอง ก็เล่นแง่
ตอนแรกก็เปลี่ยนอู่หนีไปเรื่อย ท้ายสุดสรุปได้ความว่า เค้าอยู่ได้เพราะ
การบวกค่าอะไหล่นี่เอง ก็เลยปลง เป็นเหมือนกัน(เกือบ)ทุกที่
วันที่: 30 Jul 04 - 01:06

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 003630
โดย: Fuselage
ยามที่เราป่วยไปหาหมอตรวจรักษา จะหนักเบาก็ว่าไปตามอาการและความสามารถของหมอ
ยามที่รถเราผิดปกติก็ขับไปหาช่าง จะหนักเบาก็ว่าไปตามอาการและความสามารถของช่าง
บางที่ก็เจอช่างห่วยๆที่ดีๆมีฝีมือก็มาก คุณไปหาหมอที่โรงพยาบาล(โดยเฉพาะคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ)บางครังคุณยังเลือกที่จะตรวจหรือรักษากับหมอที่คุณต้องการเพราะอะไร
อย่าบอกน๊ะว่าคุณไม่เคยเจอหมอห่วยๆ? ถ้ามีคนแต่งชุดหมอกับชุดช่างเดินคู่กันมาหา คุณคิดว่าจะยกมืไห้วใคร?? ช่างซ่อมรถให้ไม่ดีคุณก็ด่าก็โวยสรรเสริญบิดามารดาเขาเต็มที่ หมอรักษาไม่หาย
วินิจฉัยผิดก็โทษว่ากรรมเก่า ทำคนไข้เกือบตายเอาผิดกันได้ไหม??? ช่างลืมขันสกูรไล่ลมเบรคไปล้อนึง คุณจะไม่ตายคนเดียวแต่อาจพาลูกเมียตายไปด้วย ทั้งสองวิชาชีพต่างก็มีความรับผิดชอบต่อชีวิตผู้อื่นและชีวิตของเขาเองเสมอกัน มันอยู่ที่จิตสำนึกและจรรยาบรรของคนนั้นๆ สถานบริการไม่ว่าจะโรงพยาบาลหรืออู่ซ่อมรถ ท้าไม่มีมาตราฐานบุคคลากรไม่มีคุณภาพไม่คิดปรับปรุงการทำงาน เราก็อย่าไปสนับสนุนบอกเขาได้ก็บอกไม่เชื่อก็ปล่อยเขา เราก็บอกญาติเราเพื่อนเราคนรู้จักว่าอย่าไปใช้บริการ
ยังมีที่อื่นอีกน๊ะหรือเข้ามาคุยที่เวบบอรดกันก็ได้มีหลายคนที่เป็นพลังเงียบคอยช่วยๆกันอยู่
วันที่: 31 Jul 04 - 01:51

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 003691
โดย: 323f
ขนาดถามค่าแรงซ่อมไปก่อนก็แก้ยาก เพราะจะเวลาซ่อมเสร็จก็จะมาบอกว่ามีอาการแบบนั้นแบบนี้เพิ่ม หรือไม่ก็บอกว่ามีตัวนั้นตัวนี้เสียเพิ่ม หาจังหวะบวกจนได้
วันที่: 01 Aug 04 - 20:40

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 003779
โดย: แตงโม
ผมเคยเปลี่ยนลูกปืนล้อหน้า ข้างซ้ายข้างเดียว ของ NSK 1200 บาท จาก KT Service มีนบุรี หลังจากอ่านกระทู้นี้แล้ว เลยลองไปถามร้านอะไหล่ เขาบอกลูกละ 600 บาท ของ NSK เหมือนกัน และเขายืนยันว่าเป็นของแท้ ถ้าลูกปืนเล็กๆเขาจะมีของเทียมให้เลือกด้วย
วันที่: 03 Aug 04 - 08:43

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 537190
โดย: อจต.มีนบุรี
ยามที่เราป่วยไปหาหมอตรวจรักษา จะหนักเบาก็ว่าไปตามอาการและความสามารถของหมอ
ยามที่รถเราผิดปกติก็ขับไปหาช่าง จะหนักเบาก็ว่าไปตามอาการและความสามารถของช่าง
บางที่ก็เจอช่างห่วยๆที่ดีๆมีฝีมือก็มาก คุณไปหาหมอที่โรงพยาบาล(โดยเฉพาะคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ)บางครังคุณยัง เลือกที่จะตรวจหรือรักษากับหมอที่คุณต้องการเพราะอะไร
อย่าบอกน๊ะว่าคุณไม่เคยเจอหมอห่วยๆ? ถ้ามีคนแต่งชุดหมอกับชุดช่างเดินคู่กันมาหา คุณคิดว่าจะยกมืไห้วใคร?? ช่างซ่อมรถให้ไม่ดีคุณก็ด่าก็โวยสรรเสริญบิดามารดาเขาเต็มที่ หมอรักษาไม่หาย
วินิจฉัยผิดก็โทษว่ากรรมเก่า ทำคนไข้เกือบตายเอาผิดกันได้ไหม??? ช่างลืมขันสกูรไล่ลมเบรคไปล้อนึง คุณจะไม่ตายคนเดียวแต่อาจพาลูกเมียตายไปด้วย ทั้งสองวิชาชีพต่างก็มีความรับผิดชอบต่อชีวิตผู้อื่นและชีวิตของเขาเองเสมอ กัน มันอยู่ที่จิตสำนึกและจรรยาบรรของคนนั้นๆ สถานบริการไม่ว่าจะโรงพยาบาลหรืออู่ซ่อมรถ ท้าไม่มีมาตราฐานบุคคลากรไม่มีคุณภาพไม่คิดปรับปรุงการทำงาน เราก็อย่าไปสนับสนุนบอกเขาได้ก็บอกไม่เชื่อก็ปล่อยเขา เราก็บอกญาติเราเพื่อนเราคนรู้จักว่าอย่าไปใช้บริการ
ยังมีที่อื่นอีกน๊ะหรือเข้ามาคุยที่เวบบอรดกันก็ได้มีหลายคนที่เป็นพลังเงียบคอยช่วยๆกันอยู่

อย่าคิดว่าช่างไม่ดีเสมอไปครับ ช่างดีๆ ยังมีอีกมากครับ ทุกวิชาชีพต่างก็มีจรรยาบรร
และทุกวิชาชีพก็นเป็นธุรกิจทั้งนั้นครับ
วันที่: 18 Jan 10 - 00:04

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 537467
โดย: hok
มันก็เหมือนกันหมดทุกอาชีพล่ะครับ คุณไปจ่ายตลาดเคยมีพ่อค้าแม่ค้าขายให้คุณโดยไม่คิดกำไรไหมหรือให้คุณฟรี ไปซื้อของตามห้างเขาขายให้คุณเท่ากับราคาที่ซื้อมาขายหรือเปล่า ลองสังเกตุดูนะครับว่าสินค้าไหนที่ไม่มีราคาติดมักจะแพงกว่าราคาจริงไม่มากก็น้อย อยากจะบอกว่าน่าจะแก้ที่ผู้ผลิตมากกว่า ติดราคามาเลยครับ ลองคิดคิดดูกันนะครับก่อนที่จะว่าคนอื่น
วันที่: 18 Jan 10 - 19:57

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 537618
โดย: แตะฯ
ยาแดงที่ใช้ในโรงพยาบาลขวดละเท่าไร ใครรู้บ้าง?

เข้าที่เสียหลายตังค์เลย

อาทิตย์ก่องหมากัดมือ ไปทำแผลกับฉีดยากันบาดทะยัก

โรงพยาบาลฯเห็นเรามีประกันค่า OPD 1700 บาท/วัน

เรยโดนค่าหมอกับค่ายาไปซะ 1780 บาท

ทุกธุรกิจ ต้องการกำไรมาดำรงค์ชีพกันทั้งนั้นแหละครับ

มากน้อย ว่ากันไป ปลงเถอะครับ ประเทศไทย
วันที่: 19 Jan 10 - 11:21