Close this window

ล้างแอร์รถ 800บาทไม่ถอดตู้ไม่ถอดคอนโซลล้างด้วยเครื่องล้างมีกล้องส่องให้เห็นคอยล์แอร์
[url=http://img.zuzaa.com/share.php?id=9585_4C9D9ED3] src="http://img.zuzaa.com/image.php?id=9585_4C9D9ED3&jpg" border="0" />[/url]

โปรโมชั่นพิเศษสุด สำหรับแอร์รถยนต์ เพียง 800 บาท
ล้างแอร์ไม่ถอดตู้ และคอนโซล สะอาด สะดวก รวดเร็ว ด้วยเครื่องล้างแอร์อัตโนมัติ
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการบำรุงรักษาแอร์รถยนต์ โดยใช้เวลาเพียง 1 ชม. ไม่ต้องรื้อคอนโซล ไม่ต้องถอดตู้แอร์ ไม่ต้องเปลี่ยนวาวล์ ไดเออร์ และไม่ต้องแว็คคั้มเติมน้ำยาแอร์ใหม่ ด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ทางร้านมีกล้องเวบเคมส่องให้ดูก่อนล้างและหลังล้างแอร์ เพื่อการันตีว่าสะอาดจริงหรือไม่รถทุกคันที่เข้ารับบริการล้างแอร์กับทางร้าน แถมฟรี ล้างแผงระบายความร้อนแอร์ส่วนหน้าให้ด้วย พร้อมฟอกอากาศอบโอโซน มูลค่า 500 บาทฟรี
ข้อดีของการล้างด้วยเครื่องอัตโนมัติ
1. ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น น้อยกว่าการถอดตู้ล้าง
2. ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการถอดตู้ออกมาล้าง
3. ไม่ต้องเปลี่ยนวาวล์และไดเออร์ใหม่
4. ไม่ต้องเสียค่าแว็คคั้มเติมน้ำยาแอร์ใหม่
5. ไม่เกิดความเสียหายของคอนโซลเนื่องจากการถอดประกอบ
6. ตู้แอร์ไม่รั่วง่าย
ควรล้างตู้แอร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทุก 20,000 กม.
เพื่อช่วยแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็น ช่วยประหยัดน้ำมัน ช่วยลดปัญหาภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ
ขั้นตอนการทำงานเครื่องล้างแอร์รถยนต์
1 ระบบจะฉีดน้ำด้วยหัวฉีดแรงดันเข้าที่คอยล์แอร์ เพื่อชะล้างคราบฝุ่นให้หลุดออกเบื้องต้น
2 ฉีดน้ำยาย่อยสลายคราบฝุ่นที่เกาะตามคลีบคอยล์แอร์ แล้วฉีดน้ำล้างให้สะอาด
3 ระบบฉีดน้ำยาฆ่าเชื่อโรคขจัดกลิ่นอับชื่น แล้วฉีดน้ำล้างออกอีกครั้ง
4 ระบบอบโอโซน เพื่อฆ่าเชื่อแบคทีเรีย ไรฝุ่น กลิ่นอับชื้น ในรถทั้งคัน
หมายเหตุ กรณีรถของท่านใช้งานเกิน20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี ทางร้านจะไม่รับประกันตู้แอร์รั่วเพราะอะไหล่มีอายุการใช้งาน #
ติดต่อเราใด้ที่ ร้าน ท.การช่าง (ติวานนท์ นนทบุรี)
ปากซอย ติวานนท์ 46 ตรงข้าม บ.โตชิบา ติวานนท์
เบอร์โทร 02-9523293 081-4953254
Email address
[email protected]
รับบริการ ซ่อม ติดตั้ง แอร์ไดนาโม แบตเตอร์รี่ บริการให้คำแนะนำปัญหารถฟรี
ยินดีรับบัตรเคดิต ระบบเงินสด และ ระบบเงินผ่อน
[url=http://www.upchill.com/image.php?id=60acebefcd7bfb073e9c2918dff864c6] src="http://www.upchill.com/direct/60acebefcd7bfb073e9c2918dff864c6.jpg" border="0" />[/url]
[url=
http://www.upchill.com/image.php?id=eba1a3f6cd6f45ce0638f55d2d463b60] src="http://www.upchill.com/direct/eba1a3f6cd6f45ce0638f55d2d463b60.jpg" border="0" />[/url]
สภาพคอยล์แอร์รถท่านอยู่ในระดับไหน ภาพเปรียบเทียบคอยล์แอร์ให้วัดระดับกันครับ
[url=
http://img.zuzaa.com/share.php?id=E5AB_4C9D9ED3] src="http://img.zuzaa.com/image.php?id=E5AB_4C9D9ED3&jpg" border="0" />[/url]
ตัวอย่างผลงานล้างแอร์แบบใหม่ ไม่ถอดตู้แอร์ ไม่ถอดคอนโซล
ภาพก่อนล้าง และ หลังล้างครับ
[url=
http://image.ohozaa.com/show.php?id=3556cceeb71563cf3b4dada6a697b171] src="http://image.ohozaa.com/iy/150953.jpg" border="0" />[/url]
โดย: วรรณ   วันที่: 5 Oct 2010 - 13:10

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 35 : 595937
โดย: วรรณ
แผนที่ร้านครับ
วันที่: 05 Oct 10 - 13:13

 ความคิดเห็นที่: 2 / 35 : 595938
โดย: วรรณ
ตัวอย่างงานครับ ก่อนล้างและหลังล้างครับ
วันที่: 05 Oct 10 - 13:14

 ความคิดเห็นที่: 3 / 35 : 595939
โดย: วรรณ
หน้าร้านครับ
วันที่: 05 Oct 10 - 13:14

 ความคิดเห็นที่: 4 / 35 : 596618
โดย: วรรณ
วันนี้นำภาพงานมาให้ชมกันครับ รถ Honda civic ตามภาพครับ ก่อนล้าง และ หลังล้างครับ
วันที่: 07 Oct 10 - 21:38

 ความคิดเห็นที่: 5 / 35 : 596788
โดย: วรรณ
งานล้างแอร์รถ avanza ก่อนล้างมีเมือกเกาะหนา หลังล้างคอยล์แอร์สะอาด พร้อมอบโอโซนฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่นเหม็นอับ
วันที่: 08 Oct 10 - 19:33

 ความคิดเห็นที่: 6 / 35 : 596927
โดย: วรรณ
ปัจจัยหลัก ที่ทำให้แอร์รถยนต์ของท่านตันนั้น มีได้หลายสาเหตุ ซึ่งแยกเป็นหัวข้อต่างๆได้ดังนี้

1. ใช้น้ำหอมปรับอากาศและสารระเหยภายในรถยนต์เป็นประจำ

เพราะสารระเหยเหล่านี้ เมื่อโดนความชื้นและความเย็นของแอร์แล้ว จะเปลี่ยนสถานะเป็นเมือกเหนียวเกาะติดคอยล์เย็นแอร์ นานวันเข้า
คอยล์เย็นนี้ ก็จะเริ่มมีอาการเิปิดแอร์แล้ว ลมแอร์ออกมาเบากว่าที่ควรจะเป็น เช่น ปกติเคยเปิดแอร์อยู่ที่ระดับความแรง และความเย็น
ที่ระดับ 1 แต่ต้องเพิ่มความความเย็นเป็น ระดับ 2 ระดับ 3 หรือ ระดับ 4 ก็เพราะว่าลมแอร์ไม่สามารถผ่านคอยล์เย็นแอร์ แล้วออกมาทาง
ช่องแอร์หน้าคอนโซลได้ หรือทีเ่ราเรียกว่า " แอร์ตัน "
2 . การสะสมของเศษผง ขนสัตว์ และฝุ่นละออง

หากไม่มีการดูดฝุ่น หรือกำจัดฝุ่นละอองในห้องโดยสารเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง และเศษผงต่างๆ
ในตู้แอร์ และฝุ่นละอองเหล่านี้จะไปเกาะและอุดตันอยู่ในแผงคอยล์เย็นแอร์ และจะส่งผลให้เป็นอีกสาเหตุของ " แอร์ตัน " ได้
3 . พื้นที่การใช้รถยนต์

เนื่องจากสภาพท้องถนนของกรุงเทพที่เต็มไปด้วยมลภาวะต่างๆ เช่น ฝุ่น และควัน จากท่อไอเสีย ซึ่งจะทำให้คอยล์เย็นแอร์ อุปกรณ์
ที่ทำหน้าที่ผลิตความเย็นในห้องผู้โดยสาร กลายเป็นแหล่งเก็บฝุ่นละออง และคราบสกปรกต่างๆ เมื่อมีการสะสมนานวันเข้าก็จะส่งผลให้
"แอร์ตัน" ได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันจะเป็นที่ที่เพาะเชื้อราและแบคทีเรียหลายชนิด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของ การไอ จาม และโรคภูมิแพ้ัต่างๆ ได้
ดังนั้นการทำความสะอาดระบบแอร์รถยนต์ช่วยขจัดกลิ่นอับ ด้วยน้ำยาล้างระบบแอร์ที่มีประสิทธิภาพ ในการทำความสะอาด และกำจัด
เชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึุงประสงค์ การทำความสะอาดระบบแอร์จะช่วยให้การหมุนเวียนของอากาศดีขึ้น
และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น ซึ่งจะทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ซึ่งในการล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้แอร์รถยนต์ ทีคลีน (t-clean) สามารถล้างได้บ่อยครั้ง โดยไม่มีผลกระทบต่ออุปกรณ์แอร์ และคอยล์เย็นแอร์

ล้างตู้แอร์ กับ เรื่องเข้าใจผิด
สมมติว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่แอนตี้เรื่องการล้างตู้แอร์รถยนต์ เพราะได้ยินประสบการณ์เลวร้ายมาเยอะ

ความเข้าใจผิด ถ้าแอร์ยังมีลมออก มีความเย็น อย่าไปล้างเดี๋ยวตู้จะรั่ว ใช้ไปเถอะจนกว่าจะไม่มีความเย็นแล้วค่อยซ่อมทีเดียว ถ้ามาถอดล้าง เดี๋ยวตู้รั่ว

ความจริง ถ้าตู้แอร์รั่วมาก่อนแล้ว ล้างยังไงก็ต้องรั่ว แต่ที่ไม่ปรากฏอาการ เพราะเจ้าฝุ่นไปอุดรอยรั่วนั้นอยู่ พอล้างเอาฝุ่นออก รอยรั่วจึงปรากฏ ดังนั้นการล้างตู้แอร์แบบไม่ถอดตู้ จึงไม่เหมาะกับรถที่ไม่เคยล้างตู้แอร์มานานหลายปี เพราะเจ้าของรถส่วนใหญ่จะพูดว่า ก่อนทำไม่เห็นเป็นเลย (เราเองก็ใช้ประโยคนี้บ่อยเหมือนกัน) คราวนี้ต้องมาดูว่าตู้แอร์รั่วได้อย่างไร ความจริงส่วนที่รั่วก็คือแผงคอยล์เย็นในตู้แอร์ เมื่อมันอยู่ในตู้แอร์มิดชิดขนาดนั้น การทีจะไปกระแทกจนรั่วคงเป็นไปได้ยาก แผงคอลย์เย็นจะทำมาจากอลูมิเนียม เป็นซี่ๆ เรียงตัวเหมือนหม้อน้ำรถยนต์ ที่มาของการรั่วก็คือ ฝุ่น คราบสกปรก ที่เกาะอยู่บนคอยล์เย็น ทำปฎิกิริยากับความชื้น พัฒนาจนเป็นกรดสนิมค่อยทำให้อลูมิเนียมอ่อนตัวลง จนสามารถถูกกัดกร่อนได้ สรุปก็คือ ถ้าไม่คิดจะล้างเลย ตู้รั่วแน่นอน

ความเข้าใจผิด ล้างตู้แอร์ที่ดีต้องเอามาล้างข้างนอก กลิ่นถึงจะหมด

ความจริง กลิ่นหลังการล้างมาได้จากหลายสาเหตุ สารที่ใช้ล้าง วิธีการ จะบอกผลของงานได้อย่างดี เหมือนการซักผ้า ใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่เหมาะสม ซักล้างถูกวิธี คุณก็จะได้ผ้าที่สะอาด การทำความสะอาดตู้แอร์ในปัจจุบันมีหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีข้อด้อยเหมือนกันบ้างต่างกันบ้าง ถูกและดี คงใช้ไม่ได้ผล คงต้องเลือก ถ้าจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับการทำความสะอาดตู้แอร์ คุณควรได้อะไรกลับมา บางร้านใช้ผงซักฟอก หรือ โซดาไฟ ล้างแผงคอยล์เย็น ซึ่งผงซักฟอก หรือโซดาไฟ ต้องล้างด้วยน้ำปริมาณเยอะมากถึงจะขจัดออกหมด ถ้ามีตกค้าง ไอระเหยจะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ดังนั้น ถ้าได้กลิ่นผงซักฟอกเมื่อเปิดแอร์ อย่าเพิ่งดีใจไป เมื่อยังมีคราบตกค้าง ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง ดีไม่ดี เร่งโอกาสการเกิดตู้รั่วอีกด้วย

หลายครั้งกลิ่นเกิดจากการตกค้างของน้ำที่ล้างทำความสะอาดตู้แอร์ ไม่กี่วันผ่านไป กลิ่นอับกลับมาแน่นอน ส่วนการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้จะมีการตกค้างของน้ำ เว้นแต่ว่าเครื่องล้างตู้แอร์มีโปรแกรมดูดฝุ่นดูดน้ำ การตกค้างจึงหมดไป

ความเข้าใจผิด การล้างตู้แอร์ยุ่งยากต้องถอดรื้ออุปกรณ์ ใส่กรองแอร์สะดวกที่สุด ก็เหมือนกรองอากาศที่กรองฝุ่นไม่ให้เข้าห้องเผาไหม้

ความจริง กรองแอร์ช่วยดักฝุ่นก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องคราบวุ้นในตู้แอร์ เรื่องกลิ่น เรื่องเชื้อโรค ยังไงความชื้นในระบบต้องเกิดอยู่ดี และต้องเปลี่ยนเมื่อถึงกำหนดเวลา เช่น ทุก 5,000 กม. ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านกรองแอร์เข้าตู้แอร์ไม่สะดวก ลมก็ต้องตีกลับ คอมแอร์จึงทำงานหนักขึ้น อีกอย่าง กรองแอร์ไม่ได้มีสำหรับรถทุกรุ่น ราคาก็ยังนับว่าสูงอยู่ ถ้าต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ปีหนึ่งคิดเป็นเงินหลายตังค์อยู่นะ รถบางรุ่นก็ไม่ช่องสำหรับใส่กรองแอร์ เคยมีบางคนแนะนำว่า กรองแอร์แพงนัก ใช้สกอต์ไบร์ทแผ่นใหญ่ใส่แทนดีกว่า ความคิดเข้าท่านะ ไม่เคยลองเอง แต่จินตนาการดูแล้ว มันก็น่าจะช่วยกรองฝุ่นได้บ้างหล่ะ

ความเข้าใจผิด เอาตู้แอร์มาล้างข้างนอกต้องสะอาดกว่า ค่าแรงก็ไม่แพง และยังได้เติมน้ำยาแอร์ด้วย

ความจริง การถอดตู้มาล้างข้างนอกต้องแวคเอาน้ำยาแอร์ออก และเติมใหม่เมื่อประกอบกลับ การถอดมาล้างข้างนอกต้องคำนึงถึงความชำนาญของช่างด้วย ยิ่งรถรุ่นใหม่ๆ รื้อยากขึ้น การออกแบบรถรุ่นใหม่เหมาะกับการล้างตู้แอร์แบบไม่ถอดตู้ นอกจากนี้ สารทำความสะอาดที่ใช้ควรจะเป็นสารที่ไม่กัดกร่อนคอยล์เย็น ที่ค่าแรงถูก ต้องคำนึงด้วยว่าเขาใช้น้ำยาอะไร และยังต้องเปลี่ยนอะไหล่ คือ ไดเออร์ และ เพรสเชอร์วาลว์ เพราะเมื่อแวคน้ำยาแอร์ออก ความชื้นจะเข้าตามท่อแอร์ทันที ถ้าไม่เปลี่ยนอะไหล่ทั้งสองตัว ความชื้นจะอยู่ในระบบ มีผลกับการทำงานของแอร์ และเสี่ยงกับการเกิดสนิมในท่อแอร์ ถ้ารั่วต้องเปลี่ยนท่อ ราคาไม่ถูก คิดง่ายๆ ถึงช่างจะบอกว่าค่าแรงไม่แพง แต่เมื่อต้องจ่ายค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยน เบ็ดเสร็จหลายพันบาท แต่ถ้าประหยัดเชื่อช่างแอร์ไม่ยอมเปลี่ยนอะไหล่ เพราะเข้าใจว่าช่างแอร์หวังดี ช่วยประหยัดเงิน ระวังให้ดี สรุปว่าถ้า แอร์เป็นแบบแขวน หรือไม่เคยล้างมานานปี ควรล้างแบบถอดตู้ดีกว่า จะได้ตรวจสภาพตู้แอร์ด้วย แต่ถ้าเป็นรถใหม่ หรือ รถที่ล้างแอร์เป็นประจำปีละ 1 ครั้ง ล้างแบบไม่ถอดตู้ ไม่วุ่นวายดี ประหยัดงบอีกด้วย

ความเข้าใจผิด กลิ่นเหม็นนิดเดียว ทำไมต้องเสียเงินแพงๆ วางน้ำหอมปรับอากาศหน้าช่องแอร์ เท่านี้หอมทั่วทั้งรถ

ความจริง น้ำหอมที่ลงทุนซื้อมาก็สมชื่อ ช่วยสร้างกลิ่นหอม หลายคนเลือกกลิ่นตามชอบ บางคนเลือกกลิ่นแรงๆ จะได้กลบกลิ่นเหม็นอับ บางคนวางพิมเสน การบูร พวกนี้เป็นสารระเหย เชื่อหรือไม่ว่าระเหยแล้วไม่ได้หายไปไหน เคยมีตู้แอร์มาถอดล้าง ปรากฏว่าแผงคอยล์มีคราบเหนียวเต็มไปหมด ทำให้ฝุ่นเกาะได้ดีมากขึ้น ล้างออกยากขึ้น เคยคิดเล่นๆ ขนาดตู้แอร์ยังมีคราบเหนียวเกาะแบบนี้ แล้วระบบทางเดินหายใจของเราจะมีคราบแบบนี้เกาะด้วยหรือเปล่า
วันที่: 09 Oct 10 - 22:03

 ความคิดเห็นที่: 7 / 35 : 597573
โดย: วรรณ
ตู้แอร์สกปรก คืออะไร
เรื่องล้างตู้แอร์รถยนต์คงได้ยินกันมาเยอะ สรรพคุณมากมาย ก็ต้องดีกว่าไม่ล้างแน่นอน คิดง่าย ๆระหว่างอาบน้ำทุกวันกับอาทิตย์ละหน อย่างไหนจะดีกว่ากัน ถ้าไม่คิดเรื่องประหยัดน้ำนะ เหมือนแอร์บ้าน นานๆ ที ยังถอดฟิลเตอร์มาล้าง จากนั้น 3-6 เดือน เรียกใช้บริการล้างแอร์สักครั้ง แต่ตู้แอร์รถยนต์ เรามักจะไม่รู้ว่าควรล้าง เพราะไม่มีใครบอก ลองมาดูกันว่า ที่เรียกว่าตู้แอร์สกปรก เกิดขึ้นได้อย่างไร

1. อย่างแรกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฝุ่นในตู้แอร์ ก็ค่อยๆสะสมมากขึ้น ลองนึกภาพตามนะ ปกติ ลมแอร์จะผ่านตู้แอร์ ก่อนที่ลมเย็นๆจะออกมาตามช่องแอร์มาถึงเรา คราวนี้เจ้าฝุ่นไปเกาะอยู่บนแผงคอยล์เย็นในตู้แอร์ ลมก็เลยผ่านตู้ไม่สะดวก เหมือนหน้าต่างบ้านที่ติดมุ้งลวด ลมย่อมผ่านเข้าบ้านได้ไม่ดีเท่าหน้าต่างที่ไม่มีมุ้งลวด (ทั้งนี้ต้องเปิดหน้าต่างนะ) ลมแอร์ส่วนที่ผ่านตู้แอร์ไม่ได้จะไปทางไหน ก็ต้องตีกลับเข้าไป คอมแอร์เมื่อเจอลมแอร์ตีกลับเป็นประจำ ต้องทำงานหนักขึ้น คิดง่ายๆ อะไรก็ตามที่ต้องทำงานเกินกว่าที่กำหนดไว้ นานๆเข้าก็ต้องสึกหรอ มีปัญหา ในเคสคอมแอร์นี้ หนักสุดก็คือต้องเปลี่ยนคอมแอร์ แต่ต้องเข้าใจไว้ว่าเมื่อเปลี่ยนคอมแอร์ ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้เฉพาะค่าคอมแอร์นะ ช่างต้องบอกแน่ๆ ว่า ตู้แอร์สกปรกนะ ล้างไปด้วย (ถ้าโชคดีมันยังไม่รั่วนะ) ค่าอะไหล่จิปาถะ ค่าน้ำยาแอร์ ค่าแรง รวมๆ กันกับค่าเสียเวลา และอาจต้องเผื่องบบานปลาย แต่จะยังไง เจ้าของรถก็ยอม เพราะมันร้อนนี่นะ

2. กลิ่นเหม็นอับ เหม็นเปรี้ยว ถ้าคุณไม่สูบบุหรี่ ไม่ทานอาหารบนรถ คุณคงสงสัยว่ากลิ่นนี้มาจากไหน ลองคิดถึงตู้เย็นนะ ถ้าเสียบไฟตลอดเวลา ไม่แช่อาหารมีกลิ่น เวลาเปิดตู้เย็นก็จะรู้สึกถึงกลิ่นสะอาด ยิ่งตู้เย็นสมัยใหม่มีตัวดับกลิ่นยิ่งหายห่วงเรื่องกลิ่น แต่ถ้าคุณลองถอดปลั๊กตู้เย็น เอาของออกจากตู้ เช็ดทำความสะอาด จากนั้นปิดประตูตู้เย็น ผ่านไป 1 อาทิตย์ คุณมาเปิดตู้เย็นอีกครั้ง กลิ่นแรกที่คุณได้จะไม่ใช่กลิ่นเดิมที่คุณชอบ แต่เป็นกลิ่นอับ เหม็น ที่ขนาดเช็ดล้างอีกทีก็ยังคงได้กลิ่น แอร์รถก็เหมือนกัน เมื่อปิดแอร์ ดับเครื่องยนต์ ความเย็นในตู้แอร์ยังมีอยู่ กลั่นตัวเป็นหยดน้ำ เป็นคราบวุ้นในตู้แอร์ เป็นต้นเหตุของกลิ่นอับ กลิ่นเหม็นเปรี้ยว ไม่จะรถราคาแสนแพงแค่ไหน ก็ต้องเกิดวุ้นอยู่ดี หลายคนบอกว่าไม่เป็นไร เปิดแอร์ทิ้งไว้สักพัก กลิ่นจะหายไปเอง ความจริงกลิ่นไม่ได้หายไปไหน แต่จมูกของเราชินกลิ่นก็เลยรู้สึกว่ากลิ่นหมดไป

3. เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา คราบวุ้นในตู้แอร์เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอย่างดี เพราะความชื้นและอุณหภูมิเป็นใจ เหมือนกับตู้เย็นที่ปิดทิ้งไว้ (ไม่เสียบไฟ) เปิดอีกทีพบว่ามีคราบเชื้อรา ถ้าเป็นเชื้อแลคโตบาซิลัสอย่างที่โฆษณาในยาคูลท์คงจะดี ยิ่งเปิดแอร์ ยิ่งสูดอากาศเข้าไป ยิ่งร่างกายแข็งแรง แต่นี่มันคนละเชื้อกัน เจ้าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราจะค่อยๆ ทำให้ภูมิต้านทานเราบกพร่อง อาการส่วนใหญ่จะไปเกิดที่ระบบทางเดินหายใจ ที่คุ้นเคยกันก็คือ ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ มีอาการเป็นหวัดน้ำมูกใส จามบ่อย บางคนก็ไปแพ้ที่อื่น เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง ก็เป็นผื่นคัน บางคนก็เคืองตา แสบตา เชื้อโรคพวกนี้ที่ฝังตัวอยู่ในตู้แอร์ ใช่ว่าสูดวันเดียวก็เป็นภูมิแพ้นะ ร่างกายรับมันทุกวัน เชื้อโรคก็จะเข้าไปทำลายเกราะของเรา เมือถึงจุดที่ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนก่อน อาการเจ็บป่วยก็จะปรากฏขึ้นมา แอร์รถเปลี่ยนอะไหล่ได้ แต่สุขภาพของเรา จะมีอะไหล่ทดแทนได้ดั่งใจหรือเปล่า ก็อย่างที่เห็นกันจนชินตา กินยากันไปตลอดชีวิต ลองสังเกตดู คนกรุงเทพ หรือ คนเมืองเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่าคนที่อยู่ชนบท
วันที่: 12 Oct 10 - 20:20

 ความคิดเห็นที่: 8 / 35 : 598039
โดย: วรรณ
บทความคำแนะนำปัญหาแอร์ไม่เย็น จากร้าน ท.การช่าง
ปัญหาเรื่องแอร์ไม่เย็นก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะขับรถ ทุกท่านที่ขับรถคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าอากาศบ้านเรามีมลพิษมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมลพิษที่เกิดจากรถยนต์ ซึ่งนับวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งในตัวเมืองด้วยแล้วยิ่งอันตรายมาก เนื่องจากสภาพการจราจรที่ติดขัดและจำนวนรถก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ขาดความเอาใจใส่อย่างจริงจัง ปล่อยให้รถที่มีมลพิษมากยังวิ่งได้อยู่ทุกวัน ดังนั้นขณะขับรถ ผู้ขับขี่ส่วนมากจะต้องเปิดแอร์เพื่อหนีมลพิษและเพื่อความเย็นสบาย แต่ถ้าแอร์รถของคุณไม่เย็นก็อาจส่งผล ทำให้คุณเครียด หงุดหงิด และเสียสมาธิได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามรถติด
คำแนะนำ

หลังจากเปิดแอร์แล้วระยะเวลาหนึ่ง จะมีน้ำไหลออกมาจากท่อน้ำทิ้งใต้ตู้แอร์แล้วหยดลงบน พื้นถนน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าไม่มีน้ำหยดแสดงว่าท่อน้ำทิ้งอุดตันควรทำความสะอาดทันที ถ้า ปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้ตู้แอร์รั่วซึมได้
ปล. ควรนำรถเข้ารับบริการตรวจเช็ค ร้านแอร์โดยตรงซึ่งเป็นบริการตรวจเช็คฟรีเบื้องต้น

ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบปรับอากาศรถยนต์

1. คอมเพรสเซอร์ ทำหน้าที่ดูดและอัดน้ำยาแอร์ให้มีความดันสูงขึ้นและทำให้น้ำยาแอร์หมุนเวียนในระบบ ติดตั้งอยู่ที่เครื่องยนต์ อาศัยแรงขับจากเครื่องยนต์ ผ่านสายพาน มักเรียกกันว่า คอมแอร์

2. คอนเดนเซอร์ ทำหน้าที่ระบายความร้อนน้ำยาแอร์ที่ออกจาก คอมเพรสเซอร์ โดยอาศัยพัดลมระบายความร้อนหรือลมปะทะขณะรถวิ่ง

3. รีซีฟเวอร์ - ดรายเออร์ ทำหน้าที่ดูดความชื่น กรองสิ่งสกปรกในน้ำยาแอร์และกักเก็บน้ำยาแอร์ให้มีปริมาณเหมาะสมกับการใช้งานในระบบ ติดตั้งระหว่างคอนเดนเซอรืกับตู้แอร์ ที่ด้านบนจะมีตาแมวเพื่อใช้ดูว่าน้ำยาแอร์มีเพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้บางรุ่นยังมีสวิตซ์ความดันติดตั้งอยู่ด้วย สวิตช์นี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย ถ้าความดันใ นระบบสูงหรือต่ำเกินไป ชุดคลัตช์แอร์จะตัดการทำงานทันที

4. ตู้แอร์ ติดตั้งอยู่ในห้องโดยสารบริเวณหลังแผงหน้าปัด มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ

1. อีวาปอเรเตอร์ ทำหน้าที่เปลี่ยนอากาศร้อนให้อากาศเย็น

2. พัดลมตู้แอร์หรือชุดโบลว์เออร์ ทำหน้าที่ดูดอากาศร้อนภายในห้อง โดยสารให้ผ่านอีวาปอเรเตอร์เป็นลมเย็นเป่าออกทางช่องลม

3. เอกซ์แพนชันวาล์ว ทำหน้าที่ปรับความดันของน้ำยาแอร์มีคุณสมบัติในการดูด ความร้อนจากอากาศ

5. ชุดทำความร้อน ใช้ความร้อนจากน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์มาอุ่นให้อากาศร้อนขึ้นแล้วเป่าออกมาโดยพัดลม ตามปกติใช้ในขณะอากาศหนาว

สาเหตุที่แอร์รถยนต์ไม่เย็นเกิดจาก

1. ฟิวส์และรีเลย์ในวงจรเครื่องปรับอากาศชำรุด และขั้วต่อสายไฟตามจุดต่าง ๆ ต่อไว้ไม่แน่น
2. สวิตช์ความดันสูง – ต่ำในระบบชำรุด หรือขั้วต่อไม่แน่น ทำให้คอม – เพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน ถ้าความดันในระบบสูงหรือต่ำเกินไป คอมเพรสเซอร์ก็จะไม่ทำงานเช่นกัน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์แอร์เสียหาย
3. คลัตช์แม่เหล็กไม่ทำงาน หรือสายไฟเข้าคลัตช์แม่เหล็กขาด
4. สายพานแอร์หย่อนเกินไปหรือขาด ทำให้คอมเพรสเซอร์หมุนช้าหรือไม่หมุน
5. พัดลมไฟฟ้าของแอร์ไม่ทำงานหรือหมุนช้า ทำให้ความร้อนที่คอน –เดนเซอร์ ( คอยล์ร้อน ) สูง สาเหตุอาจเกิดจากแบตเตอรี่มีไฟไม่พอ หรือตัวมอเตอร์พัดลมแอร์เริ่มเสื่อมสภาพ
6. มีเศษผงหรือสิ่งสกปรกติดอยู่ที่ด้านหน้าคอนเดนเซอร์แอร์ ควรใช้ลมที่มีความดันไม่เกิน 10 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เป่าทำความสะอาด อย่าใช้ลมที่มีความดันสูงกว่านี้ เพราะอาจทำให้ครีบทที่คอนเดนเซอร์แอร์บิดงอ หรือเข้ารับบริการล้างแผงคอนเดนเซอร์แอร์ใด้ที่ร้านแอร์รถยนต์
7. ตัวเอ็กซ์แพนชัววาล์วเสียหรือเสื่อมสภาพ ทำให้คอมเพรสเซอร์ แอร์ตัด – ต่อบ่อยเกินไป
8. ตัวรีซีฟเวอร์ - ดรายเออร์เสื่อมสภาพ ที่ด้านบนจะมีกระจกใสเพื่อตรวจดูน้ำยาแอร์ว่ามีเพียงพอหรือไม่ ถ้ากระจกใสหรือมีฟองอากาศเล็กน้อยแสดงว่าปกติ
9. น้ำยาแอร์รั่วซึมตามจุดต่าง ๆ เช่น บริเวณข้อต่อ รั่วที่ซีลดโอริง รั่วที่คอนเดนเซอร์ ( คอยล์ร้อน ) รั่วที่บริเวณใต้ตู้แอร์ เนื่องจากมีน้ำขังอยู่ภายในตู้ทำให้เกิดการผุกร่อน ปัจจุบันตู้แอร์ส่วมมากทำด้วยอะลูมิเนียม ถ้ามีน้ำขังอยู่จะทำให้ตู้แอร์รั่วได้ง่าย
10. คอมเพรสเซอร์แอร์เสื่อมสภาพ

น้ำยาแอร์รั่วตามจุดต่าง ๆ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์ไม่เย็น จุดที่น้ำยาแอร์รั่วบ่อยได้แก่ตู้แอร์ เนื่องจากมีน้ำขังอยู่ วิธีตรวจว่าระบบปรับอากาศรถยนต์ทำงานปกติหรือไม่ ทำได้โดยติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ ใช้มือจับที่ท่อดูดจะเย็นหรือบางทีมีน้ำเกาะ ส่วนที่ท่อจ่ายจะร้อน ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าระบบปรับอากาศทำงานตามปกติ

คำแนะนำ

• หมั่นดูดฝุ่นภายในรถบ่อย ๆ และไล่น้ำออกจากตู้แอร์ทุกครั้งก่อนดับเครื่องยนต์
• หลังจากปิดแอร์แล้ว จะมีน้ำไหลออกมาจากท่อน้ำทิ้งใต้ตู้แอร์แล้วหยุดลงบนพื้นถนน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าไม่มีน้ำหยดแสดงว่าท่อน้ำทิ้งอุดตันควรทำความสะอาดทันที ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้ดูแอร์รั่วซึมได้
ด้วยความปราถนาดีจาก ท.การช่าง จำหน่าย ซ่อม ไดชาร์จ ไดสตาร์ท แอร์รถยนต์ ล้างแอร์แบบใหม่ไม่ถอดตู้ แบตเตอรี่ ระบบไฟรถยนต์ โทร. 02-9523293 , 0814953254
วันที่: 14 Oct 10 - 15:18

 ความคิดเห็นที่: 9 / 35 : 598281
โดย: วรรณ
นำผลงานมาเสนอครับ toyota vios รับประกันความสะอาดด้วยการส่องกล้องให้เห็นคอยล์แอร์ ทั้งก่อนล้าง และ หลังล้าง ครับ
วันที่: 15 Oct 10 - 18:15

 ความคิดเห็นที่: 10 / 35 : 598858
โดย: วรรณ
ความเข้าใจทำไมต้องล้างตู้แอร์

แค่ฝุ่น กลิ่น และเชื้อโรค คุณก็คงบอกพอได้แล้ว จะให้ล้างตู้แอร์ก็ล้าง แต่ด้วยความที่มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับการล้างตู้แอร์ที่ทำให้หลายคนไม่อยากจะพบกับเหตุการณ์เหล่านั้น ทางที่ดีก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าแต่ละเหตุการณ์มีที่มาที่ไปอย่างไร
การทำความสะอาดตู้แอร์

ปัจจุบัน การทำความสะอาดตู้แอร์ มี 4 วิธี

1. การล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ ต้องรื้อตู้แอร์ แล้วเอาคอยล์เย็นมาล้างข้างนอก น้ำยาทำความสะอาดแตกต่างกันไปแล้วช่างจะใช้อะไร ที่ค่าบริการถูกๆ ต้องคอยดูว่าใช้ผงซักฟอก โซดาไฟ หรือเปล่า พวกนี้จะล้างออกยาก ดังนั้นเวลาประกอบกลับ เปิดแอร์ จะรู้สึกว่ามีกลิ่นผงซักฟอก เจ้ากลิ่นนี้บอกอะไรเรา อันดับแรก สารทำความสะอาดล้างออกไม่หมด สามารถกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ อันดับสอง สารทำความสะอาดที่สูดเข้าไป ไม่ส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจของเราเลย ถ้าคนแพ้ ก็อาจแสบตา แสบจมูกได้ ก็อย่างว่า ไม่มีของดีราคาถูก การถอดล้างตู้แอร์แบบนี้ ต้องแวคเติมน้ำยาแอร์ใหม่ และต้องเปลี่ยนไดเออร์กับวาลว์ความดัน ถ้าประหยัดงบ ไม่ยอมเปลี่ยน ท่อแอร์รั่วได้เพราะความชื้นเข้าไปอยู่ในระบบจากการถอดตู้แอร์

2. การล้างแบบไม่ถอดตู้ โดยหลักการก็เพื่อช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายขึ้น เสร็จเร็วขึ้น ทางร้านได้เงินไว โดยทั่วไป เครื่องล้างตู้แอร์จะกำหนดน้ำยาที่ต้องใช้เฉพาะสำหรับการล้าง แต่อย่างว่าแหละ บางร้านต้องการลดต้นทุน เพราะต้นทุนน้ำยาต่อคัน ไม่ถูกหลายร้อยทีเดียว ก็เลยเอา ผงซักฟอกบ้าง โซดาไฟ บ้างผสมลงไปเพื่อให้น้ำยาใช้ได้หลายคันขึ้น ทีนี้เวลาล้างน้ำยาออกจะมีปัญหา เพราะเครื่องไม่ได้ถูกกำหนดให้ล้างผงซักฟอก หรือ โซดาไฟ ผลที่ได้ เจ้าของรถจ่ายราคาแพง แต่ได้งานบริการที่ไม่มีคุณภาพ โดยคาดไม่ถึง การล้างแบบไม่ถอดตู้นี้จะเหมาะกับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ปีละ 1 ครั้ง หรือพูดง่ายๆ เหมาะกับรถที่ดูแลรักษาความสะอาดตู้แอร์เป็นประจำ ถ้าใช้มา 7-8 ปี แล้ว ช่างแอร์ไม่ค่อยอยากล้างวิธีนี้ เพราะตู้แอร์อาจจะรั่วอยู่แล้ว แต่ฝุ่นไปอุดรูรั่วไว้ พอล้างเอาฝุ่นออก รอยรั่วก็ปรากฎ เจ้าของรถต้องทำความเข้าใจด้วย เมื่อไม่ได้ล้างทำความสะอาดมาเป็นปีๆ อัตราเสี่ยงก็ต้องสูง

3. การฉีดสเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์ ไม่ต้องรื้อตู้ออกมา ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดให้ทั่วคอยล์เย็น ก็เป็นอันเรียบร้อย คราบน้ำยาจะค่อยๆ ออกมาพร้อมกับน้ำแอร์ตามท่อน้ำทิ้ง ถ้าตู้แอร์ไม่สกปรกมาก วิธีนี้ก็พอใช้ได้ แต่คงต้องฉีดสเปรย์กันบ่อย 2-3 เดือนต่อครั้ง เพราะอยู่ในเมือง ฝุ่นจะเยอะมาก สเปรย์บางยี่ห้อจะช่วยขจัดกลิ่นด้วย ราคาค่าฉีดสเปรย์เท่าที่ทราบมา เริ่มต้นที่ 800 บาท รวมๆ เงินแล้วก็มากกว่าการล้างตู้แอร์แบบที่ 1 และ ที่ 2

4. การใส่กรองแอร์ ไม่ใช่รถทุกรุ่นจะใช้ได้ เพราะกรองแอร์ก็ทำมาสำหรับรถอีกระดับ ช่วยกรองฝุ่นอีกวิธีหนึ่ง แต่อายุการใช้งานก็ประมาณ 5000 กม. ต้องเปลี่ยนอันใหม่ ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านเข้าตู้แอร์ไม่สะดวก ลมแอร์ที่ออกมาก็จะอ่อนกำลังลง ลมที่ตีกลับจะมีผลต่อคอมแอร์ เท่าที่ทราบกรองแอร์สำหรับรถบางรุ่นราคาพอรับได้ แต่บางรุ่นราคาเป็นพันบาท ไม่แน่ใจว่าที่ราคาไม่กี่ร้อยประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร ถ้าใช้วิธีนี้ในการทำความสะอาด ในระยะ 1 ปี ก็เสียค่าใช้จ่ายมากกว่า การทำความสะอาด แบบที่ 1 และ ที่ 2
ด้วยความปราถนาดาจาก ร้าน ท.การช่าง ไดนาโม แอร์รถยนต์ 029523293
วันที่: 18 Oct 10 - 14:36

 ความคิดเห็นที่: 11 / 35 : 599228
โดย: วรรณ
ความเข้าใจทำไมถึงต้องอบโอโซนในรถจะเป็นอันตรายไหม
การอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคในตู้แอร์และในห้องโดยสาร
การอบโอโซลจะช่วยให้ตู้แอร์และห้องโดยสารภายในรถของคุณ สะอาดปราศจากเชื้อโรค
อย่างแท้จริง เพราะว่า การอบโอโซนเป็นวิธีการที่จะฆ่าเชื้อโรคได้อย่างรวดเร็ว
และมีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้แต่ในโรงพยาบาลก้อยังใช้อบห้องผ่าตัด ห้องปลอดเชื้อ ที่สำึคัญไม่มี " สารเคมี "ตกค้างเพราะ เราใช้ " โอโซน "
ในการฆ่าเชื้อโรค และท่านจะได้รับสิ่งเหล่านี้ หลังจากการอบโอโซน
1 ฆ่าเชื้อไวรัส 2009 , เชื้อโรค , เชื้อรา , เชื้อแบคทีเรีย , ไรฝุ่น กำจัดกลิ่นอับชื้น กลิ่นสารเคมีทุกชนิด
2 ป้องกันโรคภูมิแพ้และทำให้อากาศสดชื่น
3 ไม่ทิ้งสารพิษตกค้าง เพราะโอโซนก้อคือออกชิเจนอย่าง 1
นอกจากนี้หลังจากที่อบโอโซนกลิ่นและความสดชื่นจะติดอยู่ในห้องโดยสาร
ประมาณ 1 วัน แต่ท่านใดไม่ชอบกลิ่นนี้ ให้เปิดประตูทั้ง 4 บาน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
กลิ่นจะหายไปแต่ภายในห้องโดยสารที่อบโอโซนนั้น
" สะอาด และ ปราศจากเชื้อโรค "
ด้วยความปราถนาดีจาก ร้าน ท.การช่าง ไดนาโม แอร์รถยนต์ 029523293
วันที่: 20 Oct 10 - 15:31

 ความคิดเห็นที่: 12 / 35 : 599453
โดย: วรรณ
ทำไมต้องล้างตู้แอร์รถยนต์
เจ้าของรถหลายๆ ท่านยังไม่ทราบว่า ความสกปรกของตู้แอร์เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในระบบแอร์ ถ้าไม่ดูแลบำรุงรักษา ก็ต้องเตรียมใจเตรียมสตางค์ไว้ คงเคยได้ยินกันมาเรื่อง ท่อแอร์รั่ว ตู้แอร์รั่ว คอมแอร์ดัง สาระพันปัญหาที่เราๆ ไม่ค่อยเข้าใจ ลองคิดง่ายๆ แล้วกันว่า แอร์บ้านยังต้องล้าง แล้วแอร์รถยนต์จะยกเว้นได้อย่างไร แอร์บ้านถ้าไม่ล้างเลย เกิดอะไรขึ้นก็คงพอทราบกันบ้าง แล้วแอร์รถหล่ะ ถ้าสกปรก แล้วจะไม่มีผลอะไรเลยหรือ ทำไมหลายคนจะซื้อที่นอน ยังต้องเลือกแบบที่ป้องกันตัวไรฝุ่น ทำไมเจ้าไรฝุ่นจะอยู่ในรถคุณไม่ได้บ้าง
ทำไมตู้แอร์ถึงรั่ว
เวลาที่แอร์ทำงาน จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นบนคอยล์เย็น ทำให้เกิดคราบ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานวันจะกลายเป็นสนิม กัดกร่อนแผงคอยล์จนรั่ว ถ้ารั่วแล้วต้องเปลี่ยนอย่างเดียว ดังนั้นการล้างตู้แอร์ปีละ 1 ครั้ง หรือทุก 20,000 กม. จึงเป็นการป้องกันการเกิดสนิมอีกด้วย

การล้างตู้แอร์มีประโยชน์อย่างไร
• ช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
• ยืดอายุคอมแอร์
• ยืดอายุตู้แอร์
• ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
• ลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ (ตู้แอร์เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย)
การล้างตู้แอร์ด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติระบบ ทีคลีน มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพหรือไม่
ไม่อย่างแน่นอน เพราะน้ำยาที่ใช้สำหรับขจัดคราบและฆ่าเชื้อโรค ผ่านมาตรฐาน อย. เป็นน้ำยานำเข้ามาจาก usa และขั้นตอนการล้างน้ำยาด้วยน้ำแรงดันสูง พร้อมด้วยการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อดับกลิ่นชะล้างเป็นการป้องกันไม่ให้มีสารตกค้างอยู่ในตู้แอร์ จึงแน่ใจได้ว่าปลอดภัยต่อสุขภาพ และไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆ
ด้วความปราถนาดีจาก ร้าน ท.การช่าง ซ่อมติดตั้ง ไดชาร์จ ไดสตาร์ท แอร์รถยนต์ ล้างแอร์แบบใหม่ ไม่ถอดตู้แอร์029523293,0814953254
วันที่: 21 Oct 10 - 19:27

 ความคิดเห็นที่: 13 / 35 : 599645
โดย: วรรณ
นำผลงานมาเสนอเช่นเคยครับ isuzu dmax ก่อนล้างมีฝุ่นอุดตัน พร้อมทั้งเศษใบไม้ และขยะที่หนูคาบมาทำรังในตู้แอร์ หลังล้างแอร์ด้วยเครื่องล้างที่สามารถกำจัดใด้ทั้งฝุ่น และเศษใบไม้ต่างๆใด้หมดจด ไม่เหลือสิ่งตกค้างใดๆ
วันที่: 22 Oct 10 - 15:30

 ความคิดเห็นที่: 14 / 35 : 600526
โดย: วรรณ
วันนี้มาทำความรู้จักกับโอโซนกันนะครับ
ก๊าซโอโซนคืออะไร ? มีประโยชน์ยังไง
ความเข้าใจเพื่อให้รู้จักกับก๊าซโอโซนมากขึ้น ก๊าซโอโซนคืออะตอมของออกซิเจน 3 อะตอมรวมกันเป็น 1 โมเลกุลของโอโซน (O3) ตามปรกติออกซิเจนจะประกอบกันในลักษณะ 2 อะตอม เป็น 1 โมเลกุล (O2) ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันมากคือ O2 จะสามารถคงสภาพอยู่ได้หลายสภาวะ หรือ กล่าวได้ว่ามีความเสถียร (Stable) นั่นเอง แต่ก๊าซโอโซน (O3) จะไม่คงตัวหรือไม่เสถียร (Ustable) เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิ ความร้อน ความดันและการสัมผัสกับสารที่มีพลังงานต่ำกว่าจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) อย่างรวดเร็ว ซึ่ง O3 ีมีปฏิกิริยาสูงถึง 2.07 Volt (Oxidation Potential)
ประโยชน์ของโอโซน
1. ฆ่าเชื้อโรคได้รวดเร็ว โดยเฉพาะ แบคทีเรีย (ทำให้เกิดโรคและกลิ่นเหม็น) ที่ความเข้มข้นเพียง 0.01-0.04 PPM โอโซนสามารถฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส ได้แรงกว่าคลอรีน 50% และเร็วกว่าคลอรีน 5,000 เท่า
2. ทำลาย กลิ่น สารเคมี และก๊าศพิษได้ดีเยี่ยม
3. ไม่ทิ้งพิษตกค้าง เพราะเมื่อทำปฏิกิริยากับมลพิษเสร็จทุกครั้ง จะได้ ออกซิเจน (O2) จึงเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี
เนื่องจากโอโซนมีข้อดีต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าเชื้อ กำจัดมลพิษ ในราคาที่ไม่สูง จึงทำให้เราพบเห็นการ
นำโอโซนไปใช้งานอย่างกว้างข้าง เช่น โรงงานผลิตน้ำดื่มผ่านการฆ่าเชื้อด้วยน้ำโอโซน , เครื่องฟอกอากาศ ,
เครื่องปรับอากาศในบ้าน แม้แต่ในโรงพยาบาลก้อยังใช้อบห้องผ่าตัด ห้องปลอดเชื้อ เป็นต้น
การใช้โอโซนในอุตสาหกรรมต่างๆ

ด้วยความปราถนาดีจาก ร้าน ท.การช่าง ซ่อมติดตั้ง ไดชาร์จ ไดสตาร์ท แอร์รถยนต์ ล้างแอร์แบบใหม่ ไม่ถอดตู้แอร์029523293,0814953254
วันที่: 27 Oct 10 - 13:16

 ความคิดเห็นที่: 15 / 35 : 600918
โดย: วรรณ
วันนี้มาดูกันครับ ว่าการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้มีผลกระทบต่อคอยล์แอร์หรือไม่ ตามรูปที่ท่านเห็นเป็นผลงานของร้านครับ จะเห็นใด้ว่าแม้จะไม่ใด้ล้างตู้แอร์มาเลยเป็นเวลา 10 ปี ตู้แอร์อุดตันอยู่ในขั้นโคม่า ทางร้านก้อสามารถล้างให้ใด้โดยที่คอยล์แอร์ไม่ใด้รับความเสียหายใดๆเลย (หากคอยล์แอร์ท่านไม่รั่วหรือมีรอยซึมของน้ำยาแอร์มาก่อน) เพราะน้ำยาล้างคอยล์ที่ทางร้านใช้ เป็นน้ำยาล้างคอยล์แบบไม่ถอดตู้แอร์ สั่งนำเข้ามาจาก USA จึงไม่กัดกร่อนคลีบคอยล์แอร์ ซึ่งมีผลทำให้ตู้แอร์รั่ว
รับประกันความสะอาดด้วยการส่องกล้องให้เห็นคอยล์แอร์ ทั้งก่อนล้าง และ หลังล้าง ครับ ท.การช่าง 029523293
วันที่: 28 Oct 10 - 20:39

 ความคิดเห็นที่: 16 / 35 : 600920
โดย: วรรณ
วันนี้มาดูกันครับ ว่าการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้มีผลกระทบต่อคอยล์แอร์หรือไม่ ตามรูปที่ท่านเห็นเป็นผลงานของร้านครับ จะเห็นใด้ว่าแม้จะไม่ใด้ล้างตู้แอร์มาเลยเป็นเวลา 10 ปี ตู้แอร์อุดตันอยู่ในขั้นโคม่า ทางร้านก้อสามารถล้างให้ใด้โดยที่คอยล์แอร์ไม่ใด้รับความเสียหายใดๆเลย (หากคอยล์แอร์ท่านไม่รั่วหรือมีรอยซึมของน้ำยาแอร์มาก่อน) เพราะน้ำยาล้างคอยล์ที่ทางร้านใช้ เป็นน้ำยาล้างคอยล์แบบไม่ถอดตู้แอร์ สั่งนำเข้ามาจาก USA จึงไม่กัดกร่อนคลีบคอยล์แอร์ ซึ่งมีผลทำให้ตู้แอร์รั่ว
รับประกันความสะอาดด้วยการส่องกล้องให้เห็นคอยล์แอร์ ทั้งก่อนล้าง และ หลังล้าง ครับ ท.การช่าง 029523293
วันที่: 28 Oct 10 - 20:41

 ความคิดเห็นที่: 17 / 35 : 600921
โดย: วรรณ
วันนี้มาดูกันครับ ว่าการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้มีผลกระทบต่อคอยล์แอร์หรือไม่ ตามรูปที่ท่านเห็นเป็นผลงานของร้านครับ จะเห็นใด้ว่าแม้จะไม่ใด้ล้างตู้แอร์มาเลยเป็นเวลา 10 ปี ตู้แอร์อุดตันอยู่ในขั้นโคม่า ทางร้านก้อสามารถล้างให้ใด้โดยที่คอยล์แอร์ไม่ใด้รับความเสียหายใดๆเลย (หากคอยล์แอร์ท่านไม่รั่วหรือมีรอยซึมของน้ำยาแอร์มาก่อน) เพราะน้ำยาล้างคอยล์ที่ทางร้านใช้ เป็นน้ำยาล้างคอยล์แบบไม่ถอดตู้แอร์ สั่งนำเข้ามาจาก USA จึงไม่กัดกร่อนคลีบคอยล์แอร์ ซึ่งมีผลทำให้ตู้แอร์รั่ว
[url=http://d.imagehost.org/view/0311/323] src="http://d.imagehost.org/0311/323.jpg" border="0" />[/url]
รับประกันความสะอาดด้วยการส่องกล้องให้เห็นคอยล์แอร์ ทั้งก่อนล้าง และ หลังล้าง ครับ ท.การช่าง 029523293
วันที่: 28 Oct 10 - 20:42

 ความคิดเห็นที่: 18 / 35 : 601764
โดย: วรรณ
ขณะนี้ทางร้านมีกรองปรับอากาศแอร์ ให้เลือกหลายรุ่น ราคาถูกกว่า ในราคา อันละ 250 บาท
วันที่: 02 Nov 10 - 15:08

 ความคิดเห็นที่: 19 / 35 : 602284
โดย: วรรณ
นำเสนอผลงานล้างแอร์รถ BENZ E220 เข้ารับบริการวันนี้ครับ ก่อนล้างและหลังล้าง ตามภาพเลยครับ


รับประกันความสะอาดด้วยการส่องกล้องให้เห็นคอยล์แอร์ ทั้งก่อนล้าง และ หลังล้าง พร้อมบันทึกภาพใว้ให้ท่านด้วย ครับ ท.การช่าง 029523293
วันที่: 04 Nov 10 - 16:23

 ความคิดเห็นที่: 20 / 35 : 602542
โดย: วรรณ
นำรูปล้างคอยล์แอร์รถ Mitsubishi lancer อุดตันไปด้วยเมือก ที่เกิดจากการใช้น้ำหอมและการะบูน แม้ว่าจะทำความสะอาดดูดฝุ่นในรถเป็นประจำ สารเคมีเหล่านี้จะถูกพัดลมดูดเข้าไปในตู้แอร์ พอกระทบกับความเย็นและชื้น ก็จะเกาะรวมตัวกันเป็นเมือก ซึ่งทำให้คลีบคอยล์แอร์อุดตันในที่สุด
รับประกันความสะอาดด้วยการส่องกล้องให้เห็นคอยล์แอร์ ทั้งก่อนล้าง และ หลังล้าง พร้อมบันทึกภาพใว้ให้ท่านด้วย ครับ ท.การช่าง 029523293
วันที่: 05 Nov 10 - 17:02

หน้าที่: [1]   2