ElectroStatic Discharge (ESD) ไฟฟ้าสถิตทำให้เซ็นเซอร์เสียได้
พอพูดถึงไฟฟ้าสถิต เราก็คงจะนึกถึงการที่นำวัตถุ 2 ชนิดมาถูๆ กันแล้วเกิดประจุไฟฟ้าขึ้นใช่มั้ยครับ ที่จริงแล้ว ESD คือการถ่ายเทประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อวัสดุ 2 ชนิดมีประจุไฟฟ้าไม่เท่ากัน คราวนี้เมื่อนำเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิมาใช้ในรถยนต์ เวลาที่ระบบจุดระเบิดจากคอยส์หรือหัวเทียนจะมีศักย์ไฟฟ้าสูงมากเป็นกิโลโวลต์ เมื่อเรานำเซ็นเซอร์ไปวางไว้ใกล้ระบบจุดระเบิด หรือแม้แต่สายเซ็นเซอร์ไปพาดผ่านเส้นสายไฟหัวเทียน ประจุไฟฟ้าของชุดคอยส์กับเซ็นเซอร์จะมีความต่างกันมากจึงมีโอกาสที่จะเกิดการ Discharge จากระบบจุดระเบิดเข้าไปยังเซ็นเซอร์ได้
ESD อาจทำให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เสียหาย ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดปกติ ความเสียหายของเซ็นเซอร์แบ่งเป็น 2 แบบคือการเสียหายทันทีและการเสียหายแบบแอบแฝงแบบหลังนี้เซ็นเซอร์จะทำงานผิดพลาดและมีอายุการใช้งานน้อยลง
จากการวิเคราะห์เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิแบบดิจิตอลที่ใช้นั้น ส่วนประกอบด้านในจะเป็น Mosfet ซึ่งสามารถทนแรงดันจาก ESD ได้ 100 – 300 โวลต์ (
http://www.mtx.th.com/articles/part1.htm)
จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องป้องกัน ESD
จากสถิติที่ติดตั้งไปแล้วประมาณ 300 คัน มีรายงานว่าเซ็นเซอร์เสียไป 3 คัน ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วน้อยมาก บางคันก็เสียจากขาเซ็นเซอร์หักกรณีนี้ก็ได้แก้ไขโดยการดามเหล็กไว้แล้ว อย่างไรก็ตามจะต้องป้องกัน ESD โดยเฉพาะรถบางคันที่ระบบจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เช่น คอยส์รั่ว ก็ส่งผลเสียถึงเซ็นเซอร์ได้ การป้องกัน ESD นั้น โดยทั่วไปจะใช้ซีเนอร์ไดโอดมาจำกัดแรงดันและใช้ตัวเก็บประจุมาฟิลเตอร์ความถี่ที่ไม่ต้องการออกไป ในเวอร์ชั่น 4.5 ได้เพิ่มวงจรนี้เข้าไปแล้ว
การตรวจสอบว่าตำแหน่งที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ถูกรบกวนจาก ESD หรือไม่
การตรวจสอบให้ติดเครื่องยนต์แล้วรอดูว่าสามารถอ่านค่าอุณหภูมิได้รวดเร็วหรือไม่ โดยที่เริ่มอ่านเซ็นเซอร์จะเป็นค่า 0 องศา จากนั้นก็เริ่มจับเวลาว่าใช้เวลานานเท่าใดในการเปลี่ยนจาก 0 องศา เป็นอุณหภูมิของเครื่องยนต์ เวลาที่ใช้ในการอ่านค่าอุณหภูมินั้น ไม่ควรเกิน 10-15 วินาที ถ้านานกว่านี้แสดงว่าเซ็นเซอร์ถูกรบกวนจากระบบจุดระเบิด ขอให้ย้ายตำแหน่งของเซ็นเซอร์รวมทั้งการเดินสายให้เหมาะสม แล้วเซ็นเซอร์จะอยู่รับใช้เราไปได้อีกนาน
http://enginetempsensor.freetzi.com/