Close this window

ความจริงที่โหดร้ายหลังคลื่นใต้สงบ
ผมได้ลงไปภูเก็ตและพังงาสองครั้งด้วยกัน ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้ว จุดมุ่งหมายหลักคือการส่งมอบของบริจาคบรรเทาทุกข์เพื่อนพี่น้องผู้ประสบภัย และหาจุดหมายที่จะสร้างบ้านเรือนให้ ในครั้งนั้นของบริจาคจำนวนสี่คันรถปิคอัพของเรา แทบจะเรียกได้ว่ามีประโยชน์เพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับของบริจาคจำนวนมหาศาลจากทุกแห่ง จนกระทั่งไม่มีที่เหมาะสมที่จะลงของ ถึงกระนั้นก็ยังนำของทั้งหมดไปไว้ที่วัดลำแก่น เพื่อความสดวกในการแจกจ่าย ครั้งที่สองคือเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จุดมุ่งหมายคือยืนยันการสร้างบ้านและตรวจสอบสิทธิของผู้รับ สิ่งที่ผมเห็นคือความลำบากของผู้ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นความขาดแคลนสิ่งของเครื่องใช้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เพียงสองอาทิตย์ยังกองกันอยู่อย่างมหาศาล ซึ่งน่าจะเป็นที่การจัดสรรของทางเจ้าหน้าที่ การสวมสิทธิของผู้ที่ไม่ประสบภัยและไร้สำนึก และการจัดการที่ยุ่งยากบางประการ
สิ่งที่ผมพบคือ กองสิ่งของบริจาคที่เคยสูงท่วมตัว เต็มเต็นท์ขนาดใหญ่สามเต็นท์ด้วยกัน บัดนี้เหลือเพียงกองเตี้ยๆซึ่งใช้ผ้าใบผืนเดียวคลุม
เราควรจัดการอย่างไร

ทำไมเราต้องจัดการ
โดย: AAH   วันที่: 19 Jan 2005 - 16:39


 ความคิดเห็นที่: 1 / 20 : 030627
โดย: rex 2.0
ถึงแม้จะยังคิดหาทางแก้ 100% ไม่ได้ แต่ควรจะมีวิธีบางอย่างที่บูรณาการกว่านี้ บางอย่างที่ได้ผลในระยะยาว

แต่รู้สึกว่า งานนี้ทำท่าจะยาว
วันที่: 19 Jan 05 - 17:47

 ความคิดเห็นที่: 2 / 20 : 030631
โดย: จอมแก่น
ช่วยได้เท่าที่ช่วยนะคะ เพราะว่าเราก็ไม่สามารถลงไปดูแลได้ตลอดทั้งงาน เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ต้องจัดสรรให้ได้ หากแต่ว่ามีจิตสำนึกกัน ก็คงไม่เบียดเบียนกันเองคะ
วันที่: 19 Jan 05 - 17:59

 ความคิดเห็นที่: 3 / 20 : 030645
โดย: Amy
ตอนนี้จากการสังเกตุดูคือ มีแต่คนหยิบยื่นความช่วยเหลือค่ะ ฟังจากข่าวหลาย ๆ ที่ ตอนนี้เหมือนกลุ่มชาวบ้านบางกลุ่ม มีทั้งสวมรอย และนิ่ง ๆ เพื่อรอความช่วยเหลืออย่างเดียวก็มีค่ะ

ปล. จากจิตอันเป็นกุศลของพวกเรา คงจะได้ช่วยกลุ่มคนที่เขาเดือดร้อนจริง ๆ ด้วยเถิดค่ะ กรรมใดใครก่อ(จากการเบียดเบียนผู้ประสบภัย) กรรมนั้นต้องตามสนองเข้าสักวันค่ะ ตอนนี้กรรมติดจรวดค่ะ
วันที่: 19 Jan 05 - 18:24

 ความคิดเห็นที่: 4 / 20 : 030649
โดย: H@NK
เราก็ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้วครับ เราพยายามช่วยเหลือเค้าแล้ว ส่วนคนบางคนบางกลุ่มที่เห็นแก่ตัว
และไปเบียดเบียนกันแบบนั้น ก็ช่างเค้าเถอะครับ ผมก็เคยเจอตอนไปบริจาคตอนน้ำท่วมภาคใต้ ก็เจอแบบนี้เหมือนกัน
วันที่: 19 Jan 05 - 18:31

 ความคิดเห็นที่: 5 / 20 : 030691
โดย: เดช
เปรตขอส่วนบุญมันอยู่คู่สังคมไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่พวกนี้ยังดีกว่าพวกขโมยของตามร้านและบ้านที่ประสบภัย และก้อยังดีกว่าพวกทึ้งศพเป็นไหนไหน

คงไม่ต้องหาทางทำอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐหรือองค์กรต่างต่างที่นำของไปแจก ให้เค้าหาวิธีการในการจัดสรรของช่วยเหลือดีกว่า เชื่อว่ายังไงก้อคงมีเหลือบหลงเหลืออยู่ แต่ในเมื่อต้องกระจายของด้วยตวามรวดเร็ว การตรวจนู่นนี่มากไปก้อจะเสียเวลา คนที่เดือดร้อนจิงจิงจะพลอยได้ของช้าไปด้วย ดีไม่ดีไม่ได้อะไรเลย

ของช่วยเหลือที่ เอ๋ เห็นน่ะ เข้าใจว่าเป็นของที่เหลือจากการจัดสรรไปแล้ว มันยังไม่หมดเท่านั้นหรอก เพียงแต่เค้าให้ชะลอการขนส่งไปก่อนจนกว่าการสร้างบ้านจะแล้วเสร็จเพราะที่ผ่านมามีปัญหามากว่าชาวบ้านได้รับของบริจาคมากมายแต่ไม่มีที่เก็บ สุดท้ายก้อเสียของเปล่าเปล่า ดังนั้นเค้าจึงจะสร้างบ้านกันให้เสร็จก่อนแล้วจึงนำของบริจาคต่างต่างลงไปจัดสรรต่อ

ไม่ต้องห่วงครับ เงินและของบริจาคนั้นมากมายจิงจิง ถ้าใครใช้ ร.1 รอ. เป็นทางผ่านคงเห็น ใต้ถุนตึกทุกตึกในกรมฯมีแต่ของบริจาคกองเป็นภูเขา รอแค่วันขนย้ายเท่านั้นเอง

เมื่อผ่านช่วงนี้ไป ความช่วยเหลือระยะกลางและระยะยาวก้อต่อคิวอยู่ หน่วยงานและองค์กรต่างต่างทั้งภาครัฐและเอกชนเตรียมวางแผนและงบประมาณกันไว้แล้วค่อนข้างแน่นอน

อย่างที่บริษัทที่ผมทำงาน ผมเป็นหนึ่งในหกคณะกรรมการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นยักษ์ เราวางโครงการไว้เลยว่าจะระดมเงินให้ได้ประมาณ 25 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงเรียนสามแห่งที่พังงา อุปกรณ์การเรียนการสอน เฟอร์นิเจอร์ต่างต่างพร้อม มีการเตรียมจัดสรรเงินช่วยเหลือครอบครัวเด็กนักเรียนและทุนการศึกษาจนสำเร็จ โดยเฉพาะกับเด็กกำพร้าจากเหตุการณ์ครั้งนี้ การทำงานทุกอย่างต้องเร็ว แต่ที่เร็วนี่ไม่ใช่เพียงเพื่อรีบบรรเทาความเดือดร้อนของเด็กนักเรียนนะครับ หากแต่ต้องเร็วเพื่อมิให้หน่วยงานหรือองค์กรอื่นเข้ามาสร้างโรงเรียนที่เราจองไว้ นี่เรื่องจิงนะครับ แทบจะทุกโรงเรียนมีผู้แสดงคงามประสงค์ในการบูรณะแล้วทั้งสิ้น

ที่พูดมานี่ อยากจะบอกว่าความช่วยเหลือทางด้านวัตถุนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ครับ เรียกว่าเกินความต้องการก้อว่าได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการฟื้นตัวของเศรฐกิจ ความช่วยเหลือทางด้านจิตใจของผู้สูญเสีย ปัญหาสังคมและปัญหาอาชญากรรมที่ตามมา ปัญหาพวกนี้เยียวยายากครับ

ถ้า เอ๋ ถามว่า ทำไมเราต้องจัดการ

ผมถาม เอ๋ ดีกว่าว่า ทำไม เอ๋ ถึงต้องจัดการ ผมเข้าใจและชื่นชมในเจตนารมณ์ของทุกคนที่ทำงานในส่วนนี้ แต่คงต้องยอมรับความจริงว่า กลุ่มรถ อย่างพวกเราเป็น สเกล ที่เล็กมากในภาพรวมของประเทศ พวกเราทั้งหมดอาจจะเหมือนไม้กระดานหนึ่งแผ่น การจะนำไม้กระดานหนึ่งแผ่นไปสร้างบ้านนั้นยากมากหรืออาจจะเป็นไปไม่ได้ ทำไมเราไม่นำไม้กระดานหนึ่งแผ่นของเราไปรวมกับไม้กระดานอีกหลายหลายแผ่นของคนอื่น แล้วร่วมกันสร้างบ้านขึ้นมา แบบนี้น่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า

ผลที่ได้ก้อน่าจะพอใจทุกฝ่าย เราก้อได้ใช้ไม้กระดานของเราสร้างบ้าน ผู้รับก้อได้บ้านที่ดีมีคุณภาพแบบที่เค้าต้องการ
วันที่: 19 Jan 05 - 22:01

 ความคิดเห็นที่: 6 / 20 : 030695
โดย: เดช
อันนี้ลอกมาให้อ่านเล่นนะ อีเมล์จากประธานบริษัทฯ ถึงพนักงานสี่แสนคนทั่วโลก


Dear Colleagues,

The tsunami of December 26, 2004, changed the world. This horrifying natural catastrophe left over 150,000 dead and devastated the coasts of many countries in South and Southeast Asia. And its terrible impact reached far beyond the region itself. Victims are being mourned throughout the world, and the global outpouring of shock and sympathy is unprecedented. Reflecting this, governments, institutions, individuals and companies everywhere have been responding with aid in every form. This global solidarity is especially welcome and necessary in view of the sheer dimensions of the disaster.

Your donations around the world also testify to this. We have already received hundreds of thousands of euros in the special bank accounts we set up in many countries. I want to take this opportunity to thank each and every one of you for your concern and generosity. As you know, we will match every euro that you donate. The head of Siemens India, Jürgen Schubert, will administer the use of this fund and support specific projects in India, Sri Lanka, Thailand, Indonesia and Malaysia in order to help alleviate the most pressing needs as quickly as possible. In this way, our aid will be directed to where it is needed the most. We will keep you informed about these projects on our intranet under "Siemens today" (http://siemenstoday.cc.siemens.com). We have also set up a discussion forum (http://intranet.cc.siemens.de/forum/forum.jsp?forum=38) in which we will compile and evaluate your ideas and - as far as possible - implement them.

My very special thanks go to our many colleagues in the affected countries who quickly and courageously gave help - in particular technical help - where needed. With the technical support of Siemens experts, the countries have begun to restore their power, telecommunications and water infrastructure. In addition, we have been providing medical equipment to hospitals. And, in cooperation with the German army, we supplied medical equipment like x-ray and ultrasound systems for the hospital planes used to transport the injured as well as for the German naval ships stationed in the region.

Including these donations in kind, we have already made available well over one million euros. And we will increase this amount if needed. As far as local technical help is concerned, we - like no other company in the world - can now draw on the benefits of our strong local presence to help in such an extraordinary situation. With our local offices and our local experts, we have our own possibilities of offering concrete help on the spot. And we took action immediately following the catastrophe.

Naturally our commitment won't be limited to helping communities overcome the immediate problems. The people of South and Southeast Asia must not be left alone in the longer phase of restoring their infrastructure and rebuilding their lives. Our fundamental principle is: "We are here to stay." And we will now underscore this commitment in India, in Sri Lanka, in Indonesia, in Thailand and in Malaysia. We will be focusing on so-called Public Private Partnerships. We want to work together with the afflicted countries to coordinate and bundle our efforts. We want to give assistance that will be enduring and bring lasting improvements in the lives of the people. We will keep you updated on these efforts as well.

Once again, my heartfelt thanks to all who have helped the people in need.

With my best regards,
Heinrich v. Pierer
วันที่: 19 Jan 05 - 22:07

 ความคิดเห็นที่: 7 / 20 : 030711
โดย: โอ๊ะ
โอ้โห ของเดชยาวจังเลย ตามความเห็นของพี่น่ะก่อนจะช่วยคนอื่นเรามามองดูก่อนว่าเราเป็นใคร มีความสามารถหรือเชี่ยวชาญในด้านไหน มีกำลังเพียงไรที่จะช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ทำเท่าที่เรามีกำลัง ทำเท่าที่เราถนัด สิ่งใดที่เกินกำลังหรือความสามารถของเราก็ต้องให้คนที่มีกำลังหรือมีความสามารถในสิ่งนั้นๆทำโดยเราอาจจะไปช่วยเหลือสนับสนุนส่วนที่เขาต้องการได้
เช่นปัญหาของบริจาคที่เอ๋พูดถึงนั้น ถ้าเราจะแก้ปัญหานั้นพี่คิดว่าเราไม่ต้องส่งคนไปตั้งกองบัญชาการที่ใต้เพื่อจะได้ไปควบคุมหรือแจกจ่ายของเหรอและต้องรายงานมาส่วนกลางเพื่อที่จะ จัดเตรียมของที่ยังขาดอยู่ เรามีกำลังและความสามารถขนาดนั้นหรือเปล่า ถ้ามีก็ลุยไปให้ถึงที่สุด
ถ้าไม่ไหวก็เห็นด้วยกับเดชที่ว่าเราไปร่วมกับองกรณ์อื่นที่เขาพร้อมกว่าเราไปช่วยเท่าที่เราทำได้ดีไหม
ก็ขอชื่นชมในความคิดช่วยเหลือผู้เดือดร้อน แต่คงช่วยได้เท่าที่เราทำได้และคิดว่าหลายๆคนก็ได้ทำไปแล้ว
วันที่: 19 Jan 05 - 23:40

 ความคิดเห็นที่: 8 / 20 : 030786
โดย: AAH
ครับ ผมเข้าใจที่พี่โอ๊ะกับพี่เดชกล่าวมาดีครับ ตั้งแต่ตอนแรกที่ผมจะลงไปพังงา ความคิดของผมก็เหมือนๆกับทุกคน คือบริจาคเท่าที่เราทำได้ และอย่าไปขวางมือขวางเท้าเจ้าหน้าที่เค้า หรืออย่างไปเกะกะผู้ชำนาญการเลย ผมก็เคยคิดแบบนี้ครับ จนกระทั่งเจ้าน้อง(เวร)คนนึง มันดันอยากลงไปมาก ทั้งๆที่พ่อแม่ก็ห้าม แต่คำพูดที่มันใช้ให้เหตุผลกับทางบ้าน เป็นคำพูดที่ทำให้ผมทิ้งการไปเที่ยว ทิ้งเงินมัดจำทัวร์ ทิ้งเพื่อนฝูงให้ด่าไล่หลังว่านัดแล้วไม่ไป เพราะคำพูดนี้คำพูดเดียวครับ "ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้ ใครล่ะจะลงไปช่วย" ผมชอบนะ แต่ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอก มาเข้าใจแจ่มชัดตอนที่ได้ลงไปในพื้นที่ ใด้ออกแรงดึงฝาบ้าน ได้ลากเสา ลากคานออกจากกองซากปรักหักพัง ได้มองคนรอบกายที่เข้าไปช่วยรื้อช่วยลาก มีทั้งคนแก่ ไกด์นำเที่ยว ชาวเล ฝรั่งนักท่องเที่ยว ผมไม่เห็นมีผู้เชี่ยวชาญซักคน ผมไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ซักหน่วย ผมไม่เห็นมีทางการซักกลุ่มลงมาในพื้นที่นี้ ทั้ง47 ศพที่กู้ได้ในพื้นที่มาจากแรงงานชาวบ้าน นักท่องเที่ยว และผู้ไม่ชำนาญทั้งนั้น
การช่วยเหลือที่แท้จริงคือการให้กำลังใจ เพื่อที่จะให้พวกเค้าไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
การให้กำลังใจที่ที่สุดคือการเข้าไปถึงผู้ประสบเหตุ ทำให้เค้ารู้ว่ายังมีเพื่อนที่ไม่ทิ้งเค้า
สิ่งของที่บริจาคไปทำให้เค้าดำรงชีวิตได้
การเข้าถึงทำให้รู้ว่าเค้ายังมีเพื่อน
ผมยังจำคำพูดของคนใต้คนนึงที่คุยกับผมได้ เค้าถามว่าผมลงมาอย่างนี้ไม่กลัวเหรอ ผมก็ตอบไปว่าไม่กลัว เค้าก็พูดต่อว่า เวลานี้ถึงเห็นนะ ว่าคนภาคอื่นก็รักคนใต้เหมือนกัน
วันที่: 20 Jan 05 - 10:14

 ความคิดเห็นที่: 9 / 20 : 030796
โดย: AAH
ผมถามเดชต่อเลยแล้วกันนะ คำว่าต้องเร็ว คำว่าจองไว้นี่เพื่ออะไรครับ ผมเข้าใจว่าเป็นความตั้งใจดีที่อยากให้นักเรียนมีโรงเรียน นี่ก็เกือบเดือนแล้วนะครับ ชาวบ้านที่ผมเห็นยังแออัดกันอยู่ข้างสนามฟุตบอล จริงๆถ้ามองโลกในแง่ดีก็มักจะเป็นอย่างนี้แหละครับ ของบริจาคน่าจะจัดสรรคได้อย่างพอเพียง เจ้าหน้าที่ของรัฐจะจัดการอย่างทั่วถึงและยุติธรรม
"แม้เด็กจะขอเบิกนมซักกล่อง มันยังบอกต้องรอเช็คสต๊อกก่อน ผมไปซื้อที่ร้านให้ยังเร็วกว่า" อาสาสมัครคนนึงพูดกับผม
ผมอาจผิดนะครับ หน่วยงานใหญ่ต้องมีขั้นตอน การทำงานต้องเป็นระบบ ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ แต่การช่วยเหลือที่ผมเข้าใจได้อย่างง่ายๆ คงไม่ใช่แบบนี้
ผมเสนอสร้างบ้านให้สิบหลังบนเกาะพระทอง ชาวบ้านยินดีรับ แต่เค้าต้องรอทางจังหวัดที่กำลังรวบรวมงบประมาณของรัฐกับเงินบริจาคอยู่ เมื่อไหร่ไม่รู้ มีอีกหลายเรื่องที่ชาวบ้าน กำนัน และผู้ใหญ่บ้านพูดกับผมเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณของทางจังหวัด เงินที่พวกเราๆท่านๆบริจาคกันไป แต่ผมคงไม่สามารถเผยแพร่ในที่นี้ได้
อยู่ในพื้นที่หลายวัน ผมพอเข้าใจว่าทำไมถึงเกิดไฟใต้ ทำไมจึงเกิดปัญหาหลายอย่างขึ้นทางใต้ และทำไมพื้นที่นี้จึงไม่ค่อยเกิดความเจริญ
ปัญหาที่ผมกล่าวอ้างมานี่ไม่ได้เกิดขึ้นกับพื้นที่ที่มีคนสนใจ เช่น เขาหลัก ท้ายเหมือง หาดป่าตอง เลยนะครับ จุดที่ผมเข้าไป อาสาสมัคร มูลนิธิ ดารา นักการเมือง นักข่าว และบริษัทใหญ่ๆไม่ได้ให้ความสนใจ ที่นี่ไม่มีการตรวจดีเอ็นเอครับ มีแต่ชาวบ้านที่เค้ารู้จักกันอยู่แล้ว พบศพก็รู้เลยว่าญาติใคร มีแต่ชาวบ้านกับชาวมอเกล็น ขนาดบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่งต้องการจะสร้างโรงเรียนให้ พอคุยกันแล้วว่าพื้นที่เป็นเช่นนี้ เค้าก็ขอถอนตัว ตอนนี้ก็เหลือแต่วัดสองแห่งกับบริษัทเล็กๆที่ให้การสนับสนุนงานของผมอยู่ ผมคงทำเท่าที่ทำได้ครับ ขอบริจาคเท่าที่จะมีคนเข้าใจ ส่วนใครคิดที่จะรวมกับองค์กรใหญ่ก็ตามความศรัทธาอยู่แล้วครับ
วันที่: 20 Jan 05 - 10:50

 ความคิดเห็นที่: 10 / 20 : 030827
โดย: หลานคนเล็ก
ทำไมพวกน้า ๆ อา ๆ ต้องมาถกเถียงกันเองนะ
วันที่: 20 Jan 05 - 12:50

 ความคิดเห็นที่: 11 / 20 : 030833
โดย: เดช
เรื่องเงินบริจาคที่ เอ๋ ขอไม่พูดถึงนั้น คงเข้าใจกันดีว่าหมายถึงอะไร นั่นคือสาเหตุหลักที่บริษัทฯไม่ต้องการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินมากนัก (แม้จะให้ไปเบื้องต้นแล้วก้อตาม)

ที่ เอ๋ พูดนั้นถูกหมด การทำอะไรกันเองให้กับสังคมเล็กๆนั้น ทำได้ง่ายกว่า เร็วกว่า เพราะไม่มีใครมาเกี่ยวข้องมากนัก

อย่างที่บริษัทฯจะทำนี่ ต้องตั้งคณะกรรมการ ขอความเห็นพนักงาน ลงสำรวจพื้นที่ ร่างโพรโพซอลเสนอผู้บริหาร หาอาสาสมัคร จัดเตรียมทีมงาน เสนอโครงการไปที่บริษัทแม่ นี่แค่คร่าวๆในส่วนบริษัทฯนะ

ทางภาครัฐ เมื่อจะสร้างโรงเรียนก้อไม่นึกจะลงไปสร้างก้อไป ทุกอย่างต้องผ่านกระทรวงศึกษาธิการ ทางการส่งทีมไปสำรวจความเสียหาย ทำใบประเมินราคาความเสียหาย (ประมาณสองถึงสามเท่าของราคาจริง) เสนอราคาให้ภาคเอกชน ก่อนจะได้รับการอนุมัติให้ลงไปสร้างโรงเรียนได้

ทุกอย่างมันมีระบบ ระเบียบ ขั้นตอนการดำเนินงาน การควบคุม นั่นแหล่ะ ถึงยังเห็นว่าผ่านไปหลายเดือนแล้วแต่ดูเหมือนชาวบ้านยังเดือดร้อนอยู่
วันที่: 20 Jan 05 - 13:12

 ความคิดเห็นที่: 12 / 20 : 030834
โดย: เดช
เราไม่ได้เถียงกันครับ
เราเป็นสังคมประชาธิปไตย
ทุกคนมีความเห็นเป็นของตัวเอง
ทุกคนย่อมมีสิทธิแสดงความเห็น
และเป็นความเห็นที่ต้องอยู่บนรากฐานของความเป็นเพื่อน
วันที่: 20 Jan 05 - 13:15

 ความคิดเห็นที่: 13 / 20 : 030858
โดย: rex 2.0
ใช่ครับ น้อง ๆ ที่เพิ่งเข้ามาอ่านอย่างเพิ่งคิดว่าพี่ทะเลาะกันนะ

ท่านประธาน ส่วนตัวผมยังคอนเฟิร์มเหมือนเดิมนะครับ ยังไงศุกร์นี้น่าจะได้คุยกัน กับพี่ ๆ คนอื่นด้วย
วันที่: 20 Jan 05 - 15:06

 ความคิดเห็นที่: 14 / 20 : 030862
โดย: ต้น
เข้าใจทั้งที่ เอ๋ พี่โอะ และ เดช ว่ามานั้นแหละ ทุกอย่างย่อมมีข้อจำกัดทั้งนั้นแหละครับ
วันที่: 20 Jan 05 - 15:12

 ความคิดเห็นที่: 15 / 20 : 030865
โดย: ผีเฝ้าบอร์ด~
ยังอ่านอยู่ครับ ไม่มีอะไรติดขัดผมพร้อมเสมอ
วันที่: 20 Jan 05 - 15:17

 ความคิดเห็นที่: 16 / 20 : 030876
โดย: AAH
ยืนยันอีกคนครับ ว่าไม่ได้เถียงกัน เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการลงพื้นที่ และความเห็นของคนที่อยู่ที่นี่ เพื่อตอบคำถามครับ
วันที่: 20 Jan 05 - 16:06

 ความคิดเห็นที่: 17 / 20 : 030912
โดย: Amy
เราจะคอยดูความสำเร็จจากความตั้งใจจริงของทุก ๆ คนเจ้าค่ะ
วันที่: 20 Jan 05 - 20:24

 ความคิดเห็นที่: 18 / 20 : 030998
โดย: J!MMY
เป็นมุมมองและความคิดเห็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งทั้งสองมุมครับ
วันที่: 21 Jan 05 - 03:59

 ความคิดเห็นที่: 19 / 20 : 031019
โดย: *~ชั่วมั้งต้องภู~*
รอติดตามผลเช่นกันครับ

ลงเมื่อไหร่บอกได้
วันที่: 21 Jan 05 - 08:24

 ความคิดเห็นที่: 20 / 20 : 031020
โดย: น้อง จ.
อืมม...ของผมลดค่าอะไหล่ 50% ส่งช่างเก๋าๆ ลงไปดูเป็นพิเศษ และให้ใช้โชว์รูมเป็นที่เก็บรถประสบภัยเพื่อป้องกันการโจรกรรม-รอเคลมประกันครับ

ก็ช่วยๆ กันไปครับ คนไทยด้วยกัน ถนัดด้านไหนก็ทำด้านนั้นแหละครับ
วันที่: 21 Jan 05 - 08:31